เป็นเริม มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม?

วิธีดูแลสุขภาพตามหลักแพทย์แผนไทย

เป็นเริม มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม?

เป็นเริม...มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม ?


หลาย ๆ คนที่เคยมีอาการของเริม ไม่ว่าจะเป็นเริมเกิดขึ้นบริเวณริมฝีปาก หรือเริมขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ คงจะมีความกังวลใจและมีข้อสงสัยไม่น้อยว่า ปกติแล้วถ้าเราหายสนิทไม่มีแผลเริมแล้ว หรือไม่เคยมีเริมที่อวัยวะเพศเลย แต่ขึ้นเฉพาะที่ปากแบบนี้จะมีเพศสัมพันธ์ได้ไหม มีอันตรายหรือเปล่า หรือจะทำให้คู่ของเราติดเริมด้วยไหม วันนี้ปุณรดายาไทยจะมาคลายความกังวลใจให้ทราบกันนะคะ

คำตอบคือ คุณสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ค่ะ ในกรณีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

 

เป็นเริม..มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม2

 

1. มีเริมขึ้นที่บริเวณปากและแน่ใจว่าไม่มีเริมขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ

 

2. เคยมีอาการเริมที่อวัยวะเพศหรือบริเวณข้างเคียง แต่ตอนนี้หายสนิทดีแล้ว ไม่มีแผล หรือสะเก็ดหลงเหลืออยู่

 

ซึ่ง 2 กรณีข้างต้นนั้น เป็นกรณีที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ แต่สำหรับผู้ที่ยังมีเริมที่ปากในกรณีที่ 1 นั้น การมีเพศสัมพันธ์ควรมีความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ และควรรับรู้ถึงความเสี่ยงในการติดเชื้อว่าเริมสามารถติดต่อกันได้ เช่น การสัมผัสผ่านทางรอยถลอกของผิวหนังรอบ ๆ ริมฝีปาก หรือทางเยื่อเมือก จากน้ำลายหรือสิ่งคัดหลั่งต่างๆ จึงทำให้มีการติดต่อกันได้ หากคุณเป็นคนที่มีอาการเริมบริเวณปากแล้วล่ะก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้ปาก ในการทำกิจกรรมทางเพศ ไม่ว่าจะเป็น oral sex การจูบบริเวณต่าง ๆ ในร่างกาย เนื่องจากเป็นการสัมผัสระหว่างผิวหนังและน้ำลายโดยตรง เพราะสิ่งเหล่านี้คือความเสี่ยงในการติดเชื้อเริมทั้งหมด 

 

แล้วถ้ามีอาการ หรือแผลยังไม่หายสนิท เริมสามารถติดไปยังบริเวณต่างๆ ได้อย่างไรบ้าง


- เริมที่ปากจะสามารถติดเชื้อไปเป็นเริมที่ปากอีกคน ได้โดยการจูบ และการสัมผัส 

- การใช้มือสัมผัสโดนบริเวณปาก และมือนั้นมาสัมผัสโดนแผลหรือเยื่อเมือกต่างๆ จะทำให้ติดเชื้อและเป็นเริมบริเวณนั้นๆ ได้

- หากมีเพศสัมพันธ์ทางปากที่มีการสัมผัสโดนอวัยวะเพศโดยตรง เริมที่ปากจะสามารถติดเชื้อไปที่อวัยวะเพศได้เช่นกัน 

- หากแผลเริมไปสัมผัสส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่นการจูบผิวหนังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายก็สามารถติดเชื้อที่ผิวหนังส่วนอื่นได้เช่นกัน

                                             เป็นเริม..มีเพศสัมพันธ์ได้ไหม3

 

วิธีป้องกันหากต้องมีเพศสัมพันธ์ควรทำอย่างไรบ้าง


หากเลี่ยงที่จะมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ สิ่งที่ควรทำคือ

 

1.ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ในทุกช่องทางรวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก เพื่อป้องกันการติดเชื้อเริมจากปากไปสู่อวัยวะเพศ แต่การใส่ถุงยางอนามัยก็ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อเริมได้ 100 % เนื่องจากถุงยางอนามัยอาจไม่ครอบคลุมทุกส่วนของอวัยวะเพศ จึงทำให้มีโอกาสที่เชื้อเริมจะสามารถติดต่อไปได้เช่นกัน 

 

2.รู้ช่วงเวลาที่ปลอดภัยนอกจากการใส่ถุงยางอนามัยที่สำคัญแล้ว ช่วงของอาการเริมกับการมีเพศสัมพันธ์ก็สำคัญเช่นกัน โดยช่วงเวลาที่ปลอดภัยมากกว่าคือในช่วงที่เริมไม่มีอาการกำเริบ ไม่มีตุ่มน้ำขึ้นมา ไม่มีแผลตกสะเก็ดบริเวณริมฝีปาก ซึ่งในช่วงนี้จะเรียกว่าเป็นช่วงที่เชื้อหลบซ่อนตัวอยู่ตามปมประสาท ดังนั้นช่วงที่ไม่มีอาการกำเริบหรือไม่มีรอยโรคขึ้นมาจึงเป็นช่วงที่ปลอดภัยในการมีเพศสัมพันธ์ แต่ก็ต้องคอยสังเกตอาการก่อนที่เริมจะกำเริบขึ้นมาอีก ซึ่งส่วนมากในคนที่เป็นเริมมาก่อน มักจะมีอาการเตือน เช่น เริ่มมีอาการแสบร้อนบริเวณผิวหนังในบริเวณริมฝีปาก ซึ่งควรที่จะเฝ้าระวังและเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่ตอนมีอาการเตือน เพราะเชื้อกำลังจะแพร่ออกมาและสามารถติดต่อกันได้จากการสัมผัสโดยตรงนะคะ

 

เพียงเท่านี้เริมก็ไม่ใช่อุปสรรคในความสัมพันธ์อีกต่อไป เริมไม่น่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ ความรักก็ราบรื่น ชีวิตคู่ก็ดี แต่หากใครไม่อยากให้เริมมากวนใจในการใช้ชีวิตประจำวัน หรือ กวนใจคู่รัก ทางปุณรดายาไทยยินดีให้คำปรึกษา พร้อมวิธีการรักษาเริมแบบถูกวิธีเพื่อไม่ให้เริมกลับมากวนใจอีก

 

ชุดรักษาอาการเริมด้วยสมุนไพร H-Set


ยารักษาเริม H-Set

 

สรรพคุณ


1. ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น ลดการเกิดเริมใหม่ (จากปกติเวลานอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอจะขึ้นทันที) เมื่อทานสมุนไพรแล้วจะช่วยให้ไม่เกิดเริมขึ้นง่ายเหมือนเดิม


2. ช่วยให้แผลเริม แห้งเร็วขึ้น ลดอาการเจ็บ แสบร้อนของแผล


3. ช่วยบำรุงระบบต่อมน้ำเหลืองให้ทำงานดีขึ้น แข็งแรงขึ้น


4. ป้องกันแบคทีเรีย เชี้อโรคที่จะเข้าสู่แผล


5. ลดไข้ อาการคลั่นเนื้อคลั่นตัว


6. บำรุงหัวใจ และตับ ให้แข็งแรง ระบบไหลเวียนเลือดดี ตับดี ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น


7. ช่วยบำรุงให้ผิวบริเวณที่เกิดเริมบ่อยๆแข็งแรงขึ้น ไม่เกิดการติดเชื้อได้ง่าย

 

การรักษาในแบบของปุณรดา แบ่งเป็น 2 ส่วน


ส่วนที่1 ช่วงที่อาการกำเริบ หรือ มีอาการมาสักระยะ

เราจะใช้สมุนไพรชุด H-SET ในการรักษา เพราะสมุนไพรจะช่วยฟอกโลหิตที่เสีย ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสที่เข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิต ช่วยทำให้อาการเริมที่กำเริบหายได้เร็วขึ้น ช่วยสร้างเกล็ดเลือดใหม่ที่แข็งแรง ฟื้นฟูและบำรุงระบบภูมิคุ้มกัน ให้กลับมาทำงานได้ปกติ พอร่างกายแข็งแรงเริมก็เกิดได้ยากขึ้น

 

 

ส่วนที่2 หลังจากที่หายสนิทแล้ว 

ขั้นต่อมาคือ ป้องกันการเกิดซ้ำ ลดความถี่ในการเกิดโรค ด้วยการดูแลร่างกายให้แข็งแรง ควบคุู่กับทาน B-BOOST-SET ชุดสมุนไพรฟื้นฟูภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลภายในร่างกาย ปรับธาตุทั้ง 4 ที่ผิดปกติให้กลับมาเป็นปกติ พร้อมเสริมภูมิคุ้มกัน ต้านทานโรคต่างๆ

 

 

เพราะในการรักษาอาการเริมกับปุณรดายาไทย จะไม่ได้เพียงจ่ายยา แต่เรายังมี การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งเรื่องของวิธีการดูแลสุขภาพที่ออกแบบเฉพาะบุคคลสำหรับผู้ที่มีอาการเริม อาหารที่ควรทาน และ ควรงด อาหารแสลง อาหารที่ส่งผลโดยตรงต่ออาการเริม แนะนำให้แบบรายบุคคล

 

พร้อมทีมแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่ได้รับใบประกอบโรคศิลปะจากสภาการแพทย์แผนไทยคอยดูแล ตอบคำถามทุกเคสโดยคุณหมอ ตั้งแต่ 09.00-21.00 น. ทุกวันไม่มีวันหยุด เพราะ ความเจ็บป่วย รอไม่ได้

 

 

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027


ทีมแพทย์แผนไทยปุณรดา

สุรดา เลิศเกศราธรรม

ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร

"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"

พท.ป.จิราณี กิจศิริพิพัฒน์

แพทย์แผนไทยประยุกต์

"พื้นฐานของสุขภาพดีคือการใส่ใจดูแลธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย ให้สมดุลกันเสมอ"

พท.ปฐมาพรรณ บุญประเสริฐ

แพทย์แผนไทย

" การเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ด้วยวิถีธรรมชาติ เป็นเกราะป้องกันโรค ทางกายและใจ "


ปุณรดา ยาไทย
แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด

ท่านจะได้รับทราบโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครทาง LINE@ พร้อมบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์แบบส่วนตัวฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

ข้อความถึงร้าน


× คุณได้เพิ่มสนค้าลงตะกร้า ดูสินค้าในตะกร้า