น้ำเหลืองเสีย คันตามผิวหนัง ขาลายดำเป็นจ้ำๆ อาการแบบนี้ มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วนะ แล้วคนสมัยก่อนใช้ยาสมุนไพรอะไรแก้น้ำเหลืองเสียบ้างล่ะ ตามมาดูกัน!
การ รักษาน้ำเหลืองเสีย ด้วยสมุนไพร เป็นวิธีที่นิยมใช้ในทางการแพทย์แผนไทยมากที่สุด โดยหลักสำคัญคือ การเลือกใช้สมุนไพรมารักษาที่ต้นเหตุของโรค ภายใต้หลักการรักษาความสมดุลของธาตุทั้ง 4 ในร่างกาย
ไม่ควรจ่ายยารสเย็นมากเกินไป เพื่อช่วยปรับระบบเลือดและน้ำเหลืองให้ทำงานได้ดีขึ้น
เพื่อทำให้ร่างกายขับของเสียออกมาได้ดีขึ้น ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำเหลืองเสียหรือน้ำเหลืองไม่ดี หากมีปัจจัยในเรื่องการขับถ่ายที่ไม่ดี จะส่งผลให้เมื่อเป็นแผลอาการอักเสบจะเป็นมากขึ้น แต่ก็ไม่ควรถ่ายมากเกินไป
เพื่อป้องกันการกำเริบและกลับมาเป็นซ้ำของอาการน้ำเหลืองเสีย ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารแสลง และงดพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ เป็นต้น
ต้น รสเผ็ดคาว แก้กามโรค เข้าข้อ แก้โรคผิวหนัง น้ำเหลืองเสีย ทำให้แผลแห้ง ฆ่าเชื้อโรคทางเดินปัสสาวะ ขับปัสสาวะ ทาภายนอกให้เลือดมาเลี้ยงผิวหนัง
ใบ รสเผ็ดคาว แก้กามโรค ทำให้น้ำเหลืองแห้ง แก้เข้าข้อ แก้โรคผิวหนัง แก้น้ำเหลืองเสีย ทำให้แผลแห้ง ลดการอักเสบ ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ ขับปัสสาวะ แก้อักเสบ บวมน้ำ แก้โรคผิวหนังกลากเกลื้อน โรคผิวหนังทุกชนิด
นอกจากนี้ ใบพลูคาว ยีงมีสาร flavonos ชื่อเควอซิทิน (Quercetin) ซึ่งมีฤทธิ์ในการป้องกันการอักเสบ ป้องกันแบคทีเรีย และไวรัส ช่วยป้องกันอาการแพ้ ป้องกันการแข็งตัวของเลือด ป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นในหลอดเลือด และป้องกันหลอดเลือดเลี้ยงสมองอุดตันได้
ข้อควรระวัง: การรับประทานมากเกินไป จะทำให้อาเจียนได้ หรือถ้านำมาใช้ภายนอกในปริมาณที่มากเกินไป ก็จะทำให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง ทำให้เป็นแผลพองได้
ทั้งข้าวเย็นเหนือและข้าวเย็นใต้มีสรรพคุณเหมือนกัน และนิยมใช้คู่กันเรียกว่า ข้าวเย็นทั้งสอง
หัว รสมันกร่อยหวานเล็กน้อย แก้ประดง คุดทะราด แก้น้ำเหลืองเสีย ขับพยาธิ ทำให้ฝียุบแห้ง รักษาโรคผิวหนัง แก้เส้นเอ็นพิการ แก้กามรค ออกดอก เข้าข้อ ฝีแผลเน่าเปื่อยพุพอง เม็ดผื่นคัน ดับพิษในกระดูก แก้ปัสสาวะพิการ นิยมใช้เป็นยาแก้อักเสบในร่างกาย
ลูก รสเผ็ดร้อน รับประทานขับโลหิตระดู แก้ฝี
เมล็ด รสเผ็ดร้อน ขับพยาธิ
ต้น รสเค็มกร่อย รับประทานแก้พิษฝีดาษ แก้ฝีภายใน ตัดรากฝีทั้งปวง แก้โรคผิวหนัง น้ำเหลืองเสีย ต้มอาบ แก้พิษไข้หัว แก้โรคผิวหนังผื่นคัน ตำพอดปิดหัวฝี แผลเรื้อรัง ตำคั้นเอาน้ำทาศีรษะบำรุงรากผม รับประทานเป็นยาอายุวัฒนะ
ใบ รสเค็ม แก้โรคผิวหนังผื่นคัน แก้ประดง แก้ฝีทั้งภายในภายนอก
เปลือกต้น รสเย็นติดจาดฝาดขม แก้คัน แสบร้อนตามผิวหนั แก้ซาง ตัวร้อน แก้ร้อนในกระหายน้ำ ดับพิษไข้ แก้ไอ เจริญอาหาร
เนื้อไม้ รสเย็นฝาดขม ฆ่าพยาธิ แก้ซางตัวร้อน แก้แสบตามผิวหนัง แก้พิษร้อนในกระหายน้ำ ดับพิษไข้ เจริญอาหาร
เปลือกต้น รสเมาเบื่อ แก้ลมเป็นพิษ แก้ประดง แก้พิษในกระดูก ฆ่าพยาธิ แก้โรคเรื้อน มะเร็ง คุดทะราด กลาก เกลื้อน โรคผิวหนังทุกชนิด แก้กามโรค แก้โรคตับพิการ ทำให้ฟันทน ถ่ายน้ำเหลือง
เนื้อไม้ รสเมาเบื่อ แก้ลมพิษ แก้ไข้ แก้กามโรค
ราก รสเมาเบื่อร้อน แก้ลม แก้ประดง แก้พิษในกระดูก แก้โรคผิวหนัง รักษาน้ำเหลืองเสีย
ข้อควรระวัง: เนื้อไม้มีพิษทำให้เมา ใช้เป็นยาเบื่อ
ยาง รสเอียนเบื่อ ถ่ายลม ถ่ายน้ำเหลือง ถ่ายเสมหะและโลหิต เป็นยาถ่ายอย่างแรง ถ่ายโรคท้องมาน แก้โลหิตคั่งในสมอง ลดความดันเลือดที่สูงมากๆ ได้อย่างรวดเร็ว ป้องกันเส้นเลือดในสมองแตก การใช้ทำยาต้องฆ่าฤทธฺ์เสียก่อนทุกครั้ง บดผสมกะทิสด ทาแผลพุพอง น้ำเหลืองเสีย แก้ปวดแผล
ข้อควรระวัง:
- จำกัดปริมาณการใช้สำหรับรับประทาน 1 มื้อ ไม่เกิน 60 มิลลิกรัม
- ควรใช้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยรักษาน้ำเหลืองเสียได้ แต่เราควรตระหนักไว้เสมอว่า "สมุนไพรทุกชนิดเปรียบเสมือนดาบ 2 คม มีทั้งคุณและโทษ แนะนำให้ศึกษาอย่างละเอียดก่อนรับประทาน หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านยาสมุนไพรเพื่อรับคำแนะนำที่ดีที่สุดค่ะ"
อีกประการหนึ่ง ที่ควรตระหนักไว้เช่นกันคือการทานยาสมุนไพรให้ได้ผลการรักษาที่ดีนั้น ตามหลักการแพทย์แผนไทยท่านกล่าวไว้ว่าจะต้องเป็นยาตำรับ (คือยาสมุนไพรตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป บางตำรับมีมากถึง 30 ชนิด ยิ่งมากยิ่งดี เพื่อให้ตัวช่วยเสริมฤทธิ์กันรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ)
เหงือกปลาหมอ, ข้าวเย็นเหนือ, ข้าวเย็นใต้, คงคาเดือด, หัวร้อยรู, ฝีหมอบ, มะกา, เนื้อในฝักราชพฤกษ์, ทองพันชั่ง และตัวยาสำคัญอื่นๆ
1. ช่วยฟอกเลือด และขับของเสียที่ตกค้างให้ออกจากร่างกาย
2. ฟื้นฟู และบำรุงระบบน้ำเหลืองให้กลับมาทำงานได้เป็นปกติ
3. ช่วยรักษาแผลเรื้อรัง ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ทำให้แผลแห้งเร็วขึ้น
4. รักษาอาการผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ เป็นหนอง ตุ่มแดง แผลพุพอง แผลสด พร้อม ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
5. ลด และป้องกัน การเกิดฝีหนองใหม่
ค่อยๆ ฟอกเลือด และขับของเสียออกจากร่างกาย โดยระยะเวลาเริ่มตั้งแต่ 10-15 วันเป็นต้นไปขึ้นอยู่กับอาการหนัก เบา และการปรับตัวของแต่ละบุคคล ปัจจัยที่มีผลต่อการรักษาความช้า เร็ว ขึ้นอยู่กับอาหาร การดูแลความสะอาด และการดูแลสุขภาพร่วมด้วย
การรักษาและฟื้นฟูน้ำเหลืองที่เสีย ให้กลับมาเป็นปกติและไม่กำเริบอีก ในส่วนนี้จะมีปัจจัยหลัก คือ การดูแลสุขภาพ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่จะกระตุ้นให้น้ำเหลืองเสียอีก ซึ่งมีความสำคัญมากถึง 80% ส่วนอีก 20% สามารถทานยาสมุนไพรรักษาต่อเนื่องจนกว่าจะหายสนิทได้ และสมุนไพรยังช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรง สมุนไพร B-TREAT สามารถทานต่อเนื่องจนกว่าจะหายสนิทได้เลย
1. ดูแลสุขอนามัยของร่างกายให้สะอาด
2. ระมัดระวังไม่ให้มีอาการท้องผูก หรือท้องเสีย ดูแลในเรื่องการขับถ่ายให้เป็นปกติ
3. ดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อยวันละ 1 – 2 ลิตร รับประทานผักและผลไม้ให้เพียงพอ เพื่อป้องกันอาการท้องผูก เพราะการเบ่งถ่ายอุจจาระเป็นเวลานาน ๆ อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดแผลบริเวณปากทวารหนักได้
4. ทานอาหารที่สดใหม่ ปรุงสุก และมาสารอาหารครบถ้วน
5. หาเวลาผ่อนคลายอารมณ์ หลีกเลี่ยงความเครียดต่างๆ
6. พักผ่อนให้เพียงพอ ในช่วงเวลาที่ร่างกายได้พักผ่อนจริงๆ คือ 22.00-02.00 น. ดังนั้นเราควรนอนไม่เกิน 4 ทุ่ม เพื่อให้ร่างกายได้พักอย่างเต็มที่ หากนอนดึกกว่านี้ร่างกายจะอ่อนเพลีย แล้วทรุดโทรมได้
เพราะในการรักษาอาการน้ำเหลืองเสียกับปุณรดายาไทย จะไม่ได้เพียงจ่ายยา แต่เรายังมี การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งเรื่องของวิธีการดูแลสุขภาพที่ออกแบบเฉพาะบุคคลสำหรับผู้ที่มีภาวะน้ำเหลืองเสียอาหารที่ควรทาน และ ควรงด อาหารแสลง อาหารที่ส่งผลโดยตรงต่ออาการน้ำเหลืองเสีย แนะนำให้แบบรายบุคคล
พร้อมทีมแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่ได้รับใบประกอบโรคศิลปะจากสภาการแพทย์แผนไทยคอยดูแล ตอบคำถามทุกเคสโดยคุณหมอ ตั้งแต่ 09.00-21.00 น. ทุกวันไม่มีวันหยุด เพราะ ความเจ็บป่วย รอไม่ได้
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "