การรักษาริดสีดวงทวารด้วยสมุนไพร เป็นวิธีที่นิยมใช้ในทางการแพทย์แผนไทยมากที่สุด โดยหลักสำคัญคือ การเลือกใช้สมุนไพรมารักษาที่ต้นเหตุของโรค ภายใต้หลักการรักษาความสมดุลของธาตุทั้ง 4 ในร่างกาย
ริดสีดวงทวารที่เกิดจากการกำเริบของธาตุไฟ มักมีอาการอักเสบ มีเลือดออกที่หัวริดสีดวง รู้สึกร้อนวูบวาบตามตัว มักโกรธ ขี้โมโห เกิดจากรับประทานอาหารรสจัด อาหารหมักดอง ตากแดดมาก เสียน้ำมาก รับประทานน้ำน้อย
ริดสีดวงทวารที่เกิดจากการกำเริบของธาตุลม จะมีลักษณะแห้งและเย็น มีอาการปวดไม่เฉพาะบริเวณที่เป็น แต่จะปวดหลัง ปวดท้อง ปวดกระเพาะปัสสาวะ มีอารมณ์แปรปรวน เครียด วิตกกังวล โดยทั่วไป หัวริดสีดวงไม่อักเสบ ไม่มีเลือดออก และมักเป็นในผู้สูงอายุ
ริดสีดวงทวารที่เกิดจากการกำเริบของธาตุน้ำ มักเกิดในคนอ้วน ที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย หัวริดสีดวงจะนิ่ม โผล่ออกมามาก มีมูกปนมากับอุจจาระ
ไม่ควรจ่ายรสร้อนมากเกินไป เพื่อกระจายเลือดลม ไม่ให้ธาตุไฟคั่งค้างในลำไส้น้อยลำไส้ใหญ่
หรือมีสรรพคุณทางยาแก้ทางน้ำเหลืองเสีย เพื่อช่วยกัดเม็ดยอด ทำให้เม็ดริดสีดวงนั้นฝ่อลง และช่วยรักษาแผลที่เกิดจากการแตกของหัวริดสีดวงด้วย
เพราะจะทำให้ธาตุไฟและลมในลำไส้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
สรรพคุณ เถาใช้แก้โรคริดสีดวงทวารหนัก ขับลมในลำไส้
วิธีใช้
1.) ใช้เถาสด 2-3 ข้อนิ้ว ต่อหนึ่งมื้อ หากเคี้ยวสดๆ จะมีอาการคันปากคันคอได้ เพราะในสมุนไพรนี้จะมียางชนิดหนึ่งชื่อ สารแคลเซียมออกซาเลต มีลักษณะเป็นผลึกรูปเข็ม ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกับที่พบในต้นบอน ต้นเผือก วิธีการกินจึงต้องสอดไส้ในกล้วยสุก หรือมะขาม แล้วกลืนลงไป หากกินต่อเนื่อง 10-15 วัน จะเห็นผลดีขึ้นตามลำดับ
2.) ใช้เถาตากแห้ง บดเป็นผง ใส่แคปซูล ขนาดเบอร์ 2 (ผงยา 250 มิลลิกรัม) กินครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน กิน 5-7 วัน อาการจะดีขึ้นเรื่อยๆ ให้กินต่อเนื่องจนกว่าจะหาย
สรรพคุณ ใบ ราก ต้น ใช้เป็นยารักษาริดสีดวงทวาร
วิธีใช้
1.) นำรากหรือต้นยาว 1-2 ข้อนิ้ว ฝนกับน้ำปูนใสให้ข้นๆ ทาที่ริดสีดวงทวาร ช่วยให้หัวริดสีดวงยุบลง
2.) นำใบ 10-20 ใบ มาตากแห้ง บดให้เป็นผง แล้วคลุกกับน้ำผึ้งรวง ปั้นเป็นเม็ดขนาดเท่าเม็ดพุทรา รับประทานครั้งละ 2-4 เม็ด ทุกๆ วันติดต่อกัน 7-10 วัน
3.) ใช้ใบแห้งป่นเป็นผง โรยในถ่านไฟ เผาเอาควันรมที่หัวริดสีดวงทวารหนัก ช่วยให้ยุบฝ่อลง
สรรพคุณ รักษาริดสีดวงทวาร ขับปัสสาวะ แก้ปวดท้อง ท้องร่วง
วิธีใช้
1.) ใช้ราก 150 กรัม ต้มเอาน้ำข้นๆ ดื่มประมาณ 1 ถ้วยชา ที่เหลืออุ่นเอาไอน้ำ รมที่หัวริดสีดวง *ระวังอุณหภูมิไม่ให้ร้อนจนเกินไป ใช้ความอุ่นเท่าที่เราทนได้ รมวันละ 5-6 ครั้ง เสร็จแล้วนำน้ำอุ่นๆ ที่เหลือมาชะล้างแผล
สรรพคุณ ตัดรากฝีภายใน และภายนอกทุกชนิด แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ริดสีดวงทวาร
วิธีใช้
1.) ใช้เหงือกปลาหมอ 2 ส่วน กับพริกไทย 1 ส่วน ผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นเม็ดขนาดเท่าเมล็ดพุทราไทย รับประทานครั้งละ 1 - 2 เม็ด ก่อนอาหารวันละ 1 ครั้ง(2)
สรรพคุณ แก้โรคบิด ขับปัสสาวะ แก้โรคนิ่วในไต ช่วยย่อยอาหาร รักษาริดสีดวงทวาร และรักษาริดสีดวงจมูกได้อีกด้วย
วิธีใช้
1.) ใบของต้นขลู่มีกลิ่นหอม สามารถนำมาต้มเป็นชาขลู่ ดื่มแก้ริดสีดวงทวารหนัก
2.) ใช้เปลือกต้นขลู่ต้มน้ำ ให้ไอของต้นขลู่รมทวารหนักรักษาอาการอักเสบได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ขลู่ยังเป็นยาขับปัสสาวะ แก้โรคนิ่วในไต ช่วยย่อยอาหาร และรักษาริดสีดวงจมูกได้อีกด้วย
ข้อควรระวัง : ควรระวังการใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร
อาการไม่พึงประสงค์ : ท้องเสีย
นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวารได้ แต่เราควรตระหนักไว้เสมอว่า "สมุนไพรทุกชนิดเปรียบเสมือนดาบ 2 คม มีทั้งคุณและโทษ แนะนำให้ศึกษาอย่างละเอียดก่อนรับประทาน หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านยาสมุนไพรเพื่อรับคำแนะนำที่ดีที่สุด"
อีกประการหนึ่ง ที่ควรตระหนักไว้เช่นกันคือการทานยาสมุนไพรให้ได้ผลการรักษาที่ดีนั้น ตามหลักการแพทย์แผนไทยท่านกล่าวไว้ว่าจะต้องเป็นยาตำรับ (คือยาสมุนไพรตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป บางตำรับมีมากถึง 30 ชนิด ยิ่งมากยิ่งดี เพื่อให้ตัวช่วยเสริมฤทธิ์กันรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ)
เปลือกต้นส้มกุ้งแดง, รากเจตมูลเพลิงแดง, รากเปล้าใหญ่, พริกไทยล่อน, ยาดำ, ลูกจันทน์, ดอกจันทน์ ,ลูกกระวาน, หัวบุก, หัวกลอย, หัวกระดาดขาว, หัวกระดาดแดง, ขิง, เทียนดำ, เทียนขาว, ผักแพรวแดง, กานพลู, เนื้อลูกมะขามป้อม, หัวดองดึง, โกฐกระดูก, โกฐน้ำเต้า, ชะเอมเทศ, เนื้อลูกสมอไทย, มหาหิงคุ์, เกล็ดการบูร, รงทองสะตุ และตัวยาสำคัญอื่นๆ
1. รักษาริดสีดวงทวาร ทำให้ติ่งริดสีดวง ฝ่อ แห้ง และ ยุบไปตามลำดับ
2. รักษา และ ป้องกัน การขับถ่ายมีเลือดปน
3. ช่วยปรับระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ ขับถ่ายสะดวก
4. ลด อาการบวม ปวด อักเสบ ให้ดีขึ้นจนหายไป
5. ช่วยในการสมานแผลภายใน และ ภายนอก ให้หายสนิท
6. ช่วยฆ่าเชื้อสิ่งสกปรก ป้องกันไม่ให้เข้าสู่หัวริดสีดวง หรือ บาดแผล ส่งผลให้ริดสีดวงยุบตัวได้ เร็วขึ้น
7. ช่วยลดอาการปวด ทรมาน ช่วยกระจายเลือดที่คั่งให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น
สั่งซื้อสินค้าโปรโมชั่นพิเศษติดต่อ 02-1147027
ทำให้อาการปวด บวม เจ็บ อักเสบ ลดลงและช่วยให้หัวริดสีดวงแห้ง ยุบ และฝ่อลงจนหายไป โดยระยะเวลาเริ่มตั้งแต่ 10-15 วันเป็นต้นไปขึ้นอยู่กับอาการหนัก เบา และการปรับตัวของแต่ละบุคคล ปัจจัยที่มีผลต่อการรักษาความช้า เร็ว ขึ้นอยู่กับอาหาร การดูแลความสะอาด และการดูแลสุขภาพร่วมด้วย
การรักษาให้ริดสีดวงทวารหายสนิท และไม่กลับมากำเริบอีก ในส่วนนี้จะมีปัจจัยหลัก คือ การดูแลสุขภาพ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่จะกระตุ้นให้เกิดริดสีดวงอีก ซึ่งมีความสำคัญมากถึง 80% ส่วนอีก 20% สามารถทานยาสมุนไพรรักษาต่อเนื่องจนกว่าจะหายสนิทได้ และสมุนไพรยังช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันการเกิดริดสีดวงได้ สมุนไพร D-CLEAR สามารถทานต่อเนื่องจนกว่าจะหายสนิทได้เลยค่ะ
1. หากมีอาการ บวมควรประคบด้วยความเย็น โดยใช้ ถุงเจลประคบเย็น ประคบแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 5-10 นาที เพราะหากประคบนานเกินไปจะทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี และทุกครั้งหลังการขับถ่ายไม่ควรดันหัวริดสีดวงกลับทันทีหลังจากการถ่ายเสร็จ
2. หากมีอาการปวดควรนั่งแช่น้ำอุ่น
3. รักษาความสะอาด ล้างบริเวณก้นด้วยน้ำอุ่น หรือ น้ำสะอาด รักษาความสะอาดอยู่เสมอ ไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ แต่ถ้าอยากใช้สบู่ ก็ควรเป็นสบู่เด็กอ่อนเพื่อลดการระคายเคืองของหัวริดสีดวงที่กำลังบวมหรือมีการอักเสบอยู่ (ไม่ควรทำความสะอาดด้วยกระดาษชำระแบบแข็ง แต่ควรใช้วิธีชุบน้ำ หรือใช้กระดาษชำระชนิดเปียกแทน)
4. การนั่งขับถ่ายที่ถูกต้อง คือ การนั่งทำมุม 35 องศา เพื่อให้ลำไส้สะดวกต่อการขับถ่ายมากที่สุด กล้ามเนื้อที่รั้งลำไส้ใหญ่จะคลายตัวทำให้ลำไส้ใหญ่มีลักษณะที่ตรง ช่วยให้สามารถขับถ่ายออกมาได้ง่ายขึ้น
5. ทานผัก ผลไม้ชนิดมีกากใยสูงให้เพียงพอ หรือธัญพืช เพื่อป้องกันท้องผูก
6. ดื่มน้ำสะอาดมากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้อุจจาระอ่อนนุ่ม และขับถ่ายออกได้ง่าย
7. ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะจะช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ทำให้ถ่ายอุจจาระได้ง่าย
8. ฝึกขับถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลา ไม่กลั้น และไม่เบ่งอุจจาระแรง
9. หลีกเลี่ยงการนั่งเบ่งถ่ายเป็นเวลานาน ๆ รวมถึงการยืน การเดิน และการนั่งแช่เป็นเวลานาน
10. ในผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ควรหาวิธีลดความอ้วนอย่างเหมาะสมและหลีกเลี่ยงการยกของหนัก
11. ป้องกันการเกิดบาดแผลบริเวณทวารหนัก
12. งดทานอาหารแสลงทุกชนิด
13. งดมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีอาการ หรือสอดใส่สิ่งแปลกปลอมในทวารหนัก เพื่อป้องกันอาการอักเสบที่จะเกิดขึ้นได้
14. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีการเสียดสี เช่น การปั่นจักรยาน วิ่ง เดินเร็ว (นานกว่า 30 นาที) เต้น บอดี้เวท เป็นต้น
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทยประยุกต์
"พื้นฐานของสุขภาพดีคือการใส่ใจดูแลธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย ให้สมดุลกันเสมอ"
แพทย์แผนไทย
" การเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ด้วยวิถีธรรมชาติ เป็นเกราะป้องกันโรค ทางกายและใจ "