เคล็ดลับเพิ่มคุณภาพน้ำนมด้วยสมุนไพรไทย ยาประสะน้ำนม

องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า... “น้ำนมคน คือ อาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูกคน”

แต่ทั้งนี้ น้ำนมควรมีคุณภาพดี และมีเพียงพอที่จะเลี้ยงดูลูกน้อยให้เติบโตอย่างสมบูรณ์และแข็งแรงด้วยนะคะ

เคล็ดลับเพิ่มคุณภาพน้ำนมด้วยสมุนไพรไทย ยาประสะน้ำนม

ในยุคที่เต็มไปด้วยมลพิษรายล้อมรอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นมลพิษทางอากาศ พิษที่มากับอาหาร เครื่องดื่ม ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ สารพิษเหล่านี้ ย่อมบั่นทอนสุขภาพร่างกายของเราให้อ่อนแอและทรุดโทรมลงเรื่อยๆ แล้วคุณแม่ทั้งหลายจะแน่ใจได้อย่างไรว่า “น้ำนมจากร่างกายเรานั้น มีความบริสุทธิ์มากพอที่จะให้ลูกน้อยดื่มกิน” แน่นอนว่า “ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ” จนกว่าลูกจะแสดงอาการผิดปกติออกมาให้เห็น แล้วคุณแม่อย่างเราจะทนเห็นลูกน้อยเจ็บป่วยได้หรือ?

ปุณรดา ยาไทย ขอแนะนำคุณแม่ทุกคนว่า เราควรให้ความสำคัญกับคุณภาพของน้ำนมให้มากๆ เพราะในช่วงที่ลูกเป็นทารก เมื่อเจ็บป่วยขึ้นมา สิ่งเดียวที่ทารกสามารถกินได้ และไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย นั่นก็คือ “น้ำนมแม่” นั่นเองค่ะ

น้ำนมแม่ที่ดีมีคุณภาพ จึงเปรียบเสมือน ภูมิคุ้มกันรักษาลูกน้อย และยังเป็นแหล่งอาหารชั้นดีที่สุดของเจ้าตัวเล็กอีกด้วย ดังนั้นสิ่งที่คุณแม่สามารถทำเพื่อลูกได้ก็คือ การบำรุงน้ำนมให้มีคุณภาพดี และมีความบริสุทธิ์มากพอที่จะป้อนให้ลูกน้อยของเราค่ะ

ในบทความนี้ ปุณรดา ยาไทย จะมาให้ความรู้กับคุณแม่ยุคใหม่ทุกคน ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงหลังคลอดบุตร โดยเนื้อหาจะกล่าวถึง วิธีเพิ่มคุณภาพน้ำนม เพื่อให้ลูกน้อยเติบโตอย่างสมบูรณ์ แข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันที่ดี ทั้งนี้เพื่ออนาคตที่สดใสของลูกน้อยและความสุขของคุณแม่ค่ะ

ยาประสะน้ำนมคืออะไร?

ในน้ำนมของคุณแม่ทุกคนมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับลูกน้อยเพียงพออยู่แล้ว ถ้าคุณแม่นั้นแข็งแรง มีสุขภาพดี และดูแลเรื่องอาหารการกินเป็นอย่างดี ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเลยค่ะ แต่สำหรับคุณแม่ยุคใหม่ working women ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองมากนัก ควรหาตัวช่วยในการป้องกันไม่ให้น้ำนมของเราด้อยคุณภาพลง หรือเกิดปัญหาน้ำนมน้อยไม่พอให้ลูกกินนะคะ และตัวช่วยยอดนิยมของเหล่าคุณแม่ในทุกยุคทุกสมัย นั่นก็คือ “ยาประสะน้ำนม”

"ยาประสะน้ำนม คำว่า ประสะ แปลว่า ทำให้สะอาด ทำให้บริสุทธิ์ ดังนั้น ยาประสะน้ำนม จึงหมายถึงยาที่ทำให้น้ำนมสะอาด และมีความบริสุทธิ์มากยิ่งขึ้น"

โดยส่วนประกอบของ “ตำรับยาประสะน้ำนม” ได้มาจากสมุนไพรธรรมชาติล้วนๆ จึงมีความปลอดภัยสูง ไม่มีอันตรายและผลข้างเคียงต่อคุณแม่และทารก แม้แต่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ก็สามารถทาน ยาประสะน้ำนมได้ เพื่อบำรุงน้ำนมไว้แต่เนิ่นๆ ให้เจ้าตัวน้อยได้กินน้ำนมที่ดีที่สุดตั้งแต่หยดแรกของชีวิตเขานะคะ

โดยธรรมชาติแล้ว คุณแม่หลังคลอดลูกทุกคน หากไม่หาวิธีกระตุ้นน้ำนมด้วยการให้ลูกดูดนมเป็นประจำ หรือใช้เครื่องปั้มนม เก็บไว้เรื่อยๆ จะส่งผลให้น้ำนมหยุดไหลได้ เพราะขาดการกระตุ้นให้น้ำนมไหลออกมานะคะ

ยาประสะน้ำนม นอกจากจะช่วยเพิ่มคุณภาพน้ำนมให้กับคุณแม่แล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาน้ำนมน้อย หรือน้ำนมไม่ไหลได้อีกด้วย โดยยาประสะน้ำนมจะไปช่วยให้น้ำนมมีปริมาณมากขึ้น และกระตุ้นให้น้ำนมไหลออกมาได้ดียิ่งขึ้น แม้ว่าลูกน้อยไม่ยอมดูดนม คุณแม่ก็ยังสามารถปั๊มน้ำนมคุณภาพดีเก็บไว้ให้ลูกน้อยได้ทานอย่างต่อเนื่องเลยล่ะค่ะ

"น้ำนมที่ดีมีคุณภาพดี จะต้องมีความบริสุทธิ์มากๆ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย และควรมีคุณค่าทางโภชนาการมากพอที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เจ้าตัวเล็กอีกด้วยค่ะ"

ยาประสะน้ำนมดีต่อคุณแม่และลูกน้อยอย่างไร?

คุณแม่ที่ทานยาประสะน้ำนม จะช่วยให้น้ำนมมีความบริสุทธิ์ปลอดภัยต่อลูกน้อย ช่วยเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารในน้ำนม ทำให้ลูกน้อยเติบโตอย่างสมบูรณ์ ร่างกายแข็งแรง และมีภูมิคุ้มกันที่ดีกว่าเด็กทั่วไป

นอกจากนี้ ยาประสะน้ำนม ยังช่วยในการบำรุงธาตุทั้ง 4 ของคุณแม่ให้กลับมาสมดุล ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดของคุณแม่ทำงานได้ดีมากขึ้น ลมภายในไหลเวียนดี ช่วยในการกระตุ้นน้ำนมให้ไหลอกมาได้ดีขึ้น หมดกังวลกับปัญหาน้ำนมน้อย อีกทั้ง ยังช่วยในการบำรุงเลือด บำรุงกำลัง รักษาอาการอ่อนเพลีย ช่วยในการฟื้นตัวของคุณแม่ให้กลับมาสดชื่น กระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง และยังช่วยขับน้ำคาวปลา ขับระดู ขับของเสียที่ตกค้างจากการคลอดบุตรให้ออกจากร่างกายได้อีกด้วยค่ะ

Ponnom ตำรับยาประสะน้ำนมสำหรับคุณแม่ยุคใหม่

ส่วนประกอบในตัวยา คัดสรรมาเพื่อความปลอดภัยของแม่และลูกน้อย โดยแพทย์แผนไทยที่มีความเชี่ยวชาญ ได้แก่ ผลเร่ว ใบกระวาน ดอกกานพลู เมล็ดพริกไทย เหง้าขิง ดอกดีปลี เปลือกอบเชยเทศ ดอกบุนนาค รากระย่อม

สรรพคุณ :

1. ช่วยขับน้ำนม กระตุ้นการไหล เพิ่มปริมาณน้ำนม

2. บำรุงน้ำนม ช่วยให้น้ำนมบริสุทธิ์ มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น(ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ลูกน้อย)

3. ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดคุณแม่ทำงานได้ดีมากขึ้น

4. ช่วยให้การฟื้นตัวของคุณแม่ ให้กลับมาสดชื่น กระปรี้กระเปร่า

5. ช่วยขับน้ำคาวปลา ขับระดู ขับของเสียที่ตกค้าง

6. ช่วยในการบำรุงเลือด รักษาอาการอ่อนเพลีย

6 ข้อดี ของการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่

1. น้ำนมแม่ มีสารอาหารที่มีคุณค่าสูง ย่อยง่าย ทำให้ร่างกายทารกสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีโปรตีน ไขมัน และเกลือแร่ เช่น แคลเซียม และฟอสฟอรัส ในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากนี้ ในน้ำนมแม่ยังมีปริมาณน้ำที่มากเพียงพอต่อความต้องการของทารกอีกด้วย

2. นมแม่มีสารอาหารสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการทางสมองได้แก่ คลอเรสเตอรอล (cholesterol) ดีเอชเอ(DHA) และทอรีน (taurine) ซึ่งสารอาหารดังกล่าวมีความจำเพาะ ที่แตกต่างจากสารที่สังเคราะห์ขึ้นในนมผสม จึงทำให้ทารกที่กินนมแม่ มีพัฒนาการด้านเชาวน์ปัญญา และการเรียนรู้แตกต่างจากทารกที่กินนมผสมอย่างชัดเจน

3. มีภูมิต้านทานโรค ช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตของทารกแรกเกิด เพราะในช่วงหนึ่งปีแรกของชีวิต ระบบภูมิคุ้มกันของทารกยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ทารกจึงจำเป็นต้องได้รับภูมิคุ้มกันจากน้ำนมแม่ จากการศึกษาพบว่า ทารกที่กินนมผสมมีอัตราเสี่ยงเกิดโรค ท้องร่วง เกิดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ เกิดโรคหูอักเสบ สูงกว่าทารกที่กินนมแม่

4. ลดโอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้ในทารก เนื่องจาก น้ำนมแม่ไม่มีสารแปลกปลอม ที่ไปกระตุ้นภูมิแพ้ แต่นมผสมส่วนใหญ่ที่ผลิตจาก นมวัว จะมีสารเบต้าแลคโตกลอบบูลิน (βlactoglobulin) ที่ไปกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ ในทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร หรือผิวหนัง มีการศึกษาพบว่า ทารกที่กินนมแม่อย่างเดียว 4 เดือน หรือมากกว่า จะมีอัตราของการเกิดโรคหอบหืด แพ้อากาศ น้อยกว่าทารกที่กินนมผสม

5. ลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคอ้วน โดยพบว่า ทารกที่ไม่ได้ทานนมแม่ มีอัตราเสี่ยงเป็นโรคอ้วนสูงกว่าทารกที่ทานนมแม่ถึง 5 เท่า อีกทั้งน้ำนมแม่ยังช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน และโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในระยะยาวได้อีกด้วย

6. นมแม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพจิต และพัฒนาการของทารก การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จะช่วยสร้างสายสัมพันธ์ และสายใยรัก ระหว่างมารดาและทารก ช่วยให้มารดาเข้าใจ การแสดงออกของลูกและสามารถตอบสนองได้ตรงกับความต้องการของลูก ทารกจะร้อง น้อยลง ช่วยให้ทารกได้รับความอบอุ่น ทางด้านจิตใจ อันเป็นรากฐานต่อสุขภาพจิต และการปรับตัวเข้ากับสังคมต่อไปในอนาคต

"แม้แต่องค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟ (กองทุนเพื่อเด็ก แห่งสหประชาชาติ) ยังแนะนำให้คุณแม่หลังคลอดเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว อย่างน้อย 6 เดือน หลังจากนั้น สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ควบคู่กับอาหารตามวัยได้ จนกว่าทารกจะมีอายุอย่างน้อย 2 ปี"

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027