วิธีรักษา โรคเหงือกอักเสบ บวม ร้อนในเรื้อรัง

วิธีดูแลสุขภาพตามหลักแพทย์แผนไทย

วิธีรักษา โรคเหงือกอักเสบ บวม ร้อนในเรื้อรัง

วิธีรักษา โรคเหงือกอักเสบ บวม ร้อนในเรื้อรัง กลิ่นปาก

 

เลือดออกเวลาแปรงฟัน ปวดฟัน ฟันโยก ภายใน 3 นาที!


โดยไม่ต้องไปหาหมอ

 

 

ถ้าไม่รีบรักษา จะเกิดอะไรขึ้น?

 

 

โรคเหงือกอักเสบ คือ หนึ่งในอาการของโรคเหงือก ที่มีต้นเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย ที่สามารถลุกลามได้ และนำไปสู่โรคปริทันต์อักเสบ หรือ โรครำมะนาด ที่เข้าไปทำลายเนื้อเยื่อรากฟัน เหงือกจะเริ่มร่น กระดูกเบ้าฟันที่อยู่รอบ ๆ รากฟันจะค่อย ๆ สลายตัว, เอ็นยึดเหงือก, เคลือบรากฟันจะค่อย ๆ ถูกทำลาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่อาการ ฟันโยก ฟันคลอน และถ้าปล่อยไว้ก็จะต้องถอนฟันซี่นี้ทันที 

 

และหากยังไม่รักษา เชื้อแบคทีเรียนี้จะล่ามกัดกินรากฟันทั้งหมดในช่องปากของคุณ ที่จะทำให้คุณจำเป็นต้องถอนฟันทั้งช่องปาก และใส่ฟันปลอม ที่คุณจะไม่มีโอกาสได้รับรสชาติอาหารปกติอีกต่อไป หรือหากคุณเลือกที่จะรักษารากฟัน ก็ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายหลายหมื่น-เป็นแสนต่อซี่ด้วยซ้ำ

 

แต่หากคุณคอยสังเกตอาการ และ รักษาตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ โรคเหงือกอักเสบที่รุนแรงขนาดนี้จะไม่เกิดขึ้นกับคุณเลย และตัวคุณเองสามารถป้องกันได้ หากรู้สาเหตุของโรคเหงือกอักเสบนี้

 



 

สาเหตุ เหงือกอักเสบ

 

สาเหตุของโรคเหงือกอักเสบ แบ่งออกเป็น 3 สาเหตุหลักๆด้วยกัน

 

1.การแปรงฟันไม่สะอาด ไม่ถูกวิธี 

 

ทำให้เกิดแผ่นคราบจุลินทรีย์เกาะตามผิวฟัน หรือเรียกง่ายๆว่า ขี้ฟัน 

ก่อตัวรวมกันเป็นที่สะสมของแบคทีเรีย นานวันเข้าก็จะกลายเป็นคราบพลัค ซึ่งคราบพลัคนี้ส่งผลให้เหงือกเกิดอาการระคายเคือง เหงือกบวม แดง และอาจมีปัญหาเลือดออกขณะแปรงฟันและขณะใช้ไหมขัดฟัน

ที่ สามารถขึ้นได้กับทั้งผู้ใหญ่และเด็ก

 

 

 

2.บริเวณเหงือกและฟันมีปัญหา

 

เวลาที่ร่างกายได้รับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม เช่น แบคทีเรีย ไวรัส จากการสัมผัส การกิน หรือการหายใจ เมื่อรับเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไป ร่างกายจะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ตอบสนอง โดยมีกลไกต่อต้าน หรือ ทำลายเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย โดยกลไกนี้เปรียบเสมือนทหารผู้คอยดูแล ปกป้อง ช่วยต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอมที่จะเข้าสู่เนื้อเยื่อหรือที่อยู่ในเนื้อเยื่อของร่างกายแล้ว แต่ถ้าทหารของเราและแนวป้องกันนี้ถูกทำลาย เช่น มีแผลร้อนใน แผลในช่องปาก  ร่างกายจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวกลุ่มที่คอยดักจับและทำลายเชื้อโรคที่ผ่านเข้ามาในร่างกาย ซึ่งถือเป็นกลไกการต่อต้านแบบไม่จำเพาะ

ที่ร่างกายสร้างขึ้น 

 

 

 

 

 

-การมีหินปูนหรือหินน้ำลายสะสม 

 

-การมีฟันผุตามขอบเหงือก 

 

-วัสดุอุดฟันที่ไม่ดี อุดแล้วขอบหนาเกินไปเข้าไปอยู่ใต้เหงือก หรือ กดทับเหงือก

 

-การครอบฟัน ด้วยวัสดุตัวครอบที่สภาพไม่ค่อยดี-เสื่อมสภาพ แล้วไม่ได้รับการแก้ไข

 

-ลักษณะฟันที่ล้ม ฟันที่ซ้อนเก ทำให้มีการสะสมของแบคทีเรียได้ง่ายในบริเวณที่แปรงฟันไม่ถึง

 

 

3.ปัจจัยทางพฤติกรรมและร่างกาย

ที่ทำให้เหงือกอักเสบได้มากกว่าคนทั่วไป มักพบได้บ่อยใน 4 ลักษณะนี้

> คนสูบบุหรี่
เพราะการสูบบุหรี่ทำให้ความสามารถในการต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียลดลง เวลาร่างกายเกิดการติดเชื้อบริเวณเหงือกก็เกิดการต่อสู้ได้ยากขึ้น ทำให้เหงือกเกิดการอักเสบได้ง่าย และการสูบบุหรี่ยังสามารถบดบังสัญญาณของปัญหาโรคเหงือกอีกด้วย เพราะสีของเหงือกจะเข้มกว่าปกติจนสังเกตได้ยาก  พอรู้ตัวว่าเป็นเหงือกอักเสบ ก็จะเป็นตอนที่มีอาการปวดหนัก ๆ แล้ว
 

> ผู้ป่วยเบาหวาน
ที่ไม่ได้ควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในระดับปกติ เพราะผู้ป่วยเบาหวานจะมีภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อต่ำกว่าคนปกติ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะมีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นภายในช่องปาก เช่น อาการปากแห้งเนื่องจากน้ำลายไหลน้อยลง อาการปวดแสบปวดร้อน ติดเชื้อในช่องปากง่าย         แผลหายช้า ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคปริทันต์อักเสบเพิ่มมากขึ้น

 

> คุณแม่ตั้งครรภ์
เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจนเกิดการระคายเคืองที่เหงือกได้ง่าย เกิดมีคราบแบคทีเรียและการสะสมของจุลิทรีย์ต่างๆ ในช่องปากได้ง่ายกว่าปกติ ทำให้เสี่ยงฟันผุ เสี่ยงเหงือกอักเสบได้มากเป็นพิเศษ ซึ่งโรคเหงือกอักเสบนั้น ถือว่าพบได้บ่อยมากในคุณแม่ตั้งครรภ์ โดยจะมีอาการสำคัญคือ เหงือกบวมแดง มีอาการเจ็บ และมีเลือดออกได้ง่ายขณะแปรงฟันหรือขัดฟัน ในช่วงตั้งครรภ์หากคุณแม่มีอาการแพ้ท้อง อาเจียนบ่อยๆ ก็ยิ่งเพิ่มการสะสมของคราบสิ่งสกปรกในช่องปากได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม โดยระยะปลอดภัยที่สามารถเข้าพบทันตแพทย์ได้โดยไม่มีผลต่อลูกในท้องมากที่สุด ควรทำช่วงไตรมาสที่ 2 หรือ ช่วง 4-6 เดือนของช่วงอายุครรภ์

 

> ผู้ป่วยที่ได้รับยาบางชนิด ที่ทำให้มีปัญหาในช่องปากตามมา ได้แก่

 

- ยาที่มีผลทำให้เหงือกบวมขยายใหญ่ เช่น ยาป้องกันการชัก  ยาที่ใช้ในการปลูกถ่ายอวัยวะ เมื่อเหงือกบวมขยายใหญ่เศษอาหารจะติดง่าย ทำให้มีปัญหาเหงือกและฟันตามมา 

 

- ยาที่มีผลต่อเยื่อบุในช่องปาก เช่น ยาที่ใช้ควบคุมความดันโลหิต ยาคุมกำเนิด ยาเคมีบำบัด ผลข้างเคียงเหล่านี้มีผลต่อเยื่อบุในช่องปาก อาจทำให้เกิดแผลในช่องปากง่ายขึ้น มีการอักเสบ หรือมีการเปลี่ยนสีของเยื่อบุในช่องปาก

 

-ยาที่มีผลทำให้ปากแห้ง ที่ทำให้เกิดแผลในช่องปากได้ง่ายขึ้น มีโอกาสอักเสบและติดเชื้อได้ง่าย เช่น การใช้ยาแล้วมีอาการปากแห้ง แม้ว่าจะเป็นยาที่ซื้อโดยไม่มีใบสั่งยาจากแพทย์ก็ตาม โดยยาที่อาจส่งผลให้เกิดอาการปากแห้ง เช่น

 

>> ยาแก้แพ้

>> ยาลดน้ำมูก

>> ยาแก้ปวด

>> ยาขับปัสสาวะ

>> ยาลดความดันโลหิต

>> ยาคลายกล้ามเนื้อ

>> ยารักษา Parkinson's disease

>> ยารักษาภาวะซึมเศร้า

 

 

 

9 อาการสังเกต โรคเหงือกอักเสบ
รีบรักษาตอนนี้ ไม่ต้องไปหาหมอ ไม่ต้องถอน ไม่ต้องผ่า

 

1.เคี้ยวอาหารแล้วปวดตึงๆ

 

2.ระหว่างวันเจ็บ รู้สึกปวดหน่วง ๆ ไม่สบายในช่องปาก แต่ถ้าเอาไม้จิ้มฟันแยง หรือ แคะฟันก็จะรู้สึกดีขึ้น 

 

3.คันเหงือก จนบางครั้งต้องเอามือถู หรือนวดเหงือก ทำให้พูดลำบาก ต้องใช้ลิ้นดุ้น ๆ

 

4.มีเลือดออกขณะแปรงฟัน หรือ ใช้ไหมขัดฟัน อาการเลือดออกบ่อย เป็นตัวบ่งบอกว่าเหงือกอ่อนแอ หรือ มีอาการแผลในช่องปากเรื้อรังที่ไม่ได้รับการรักษาให้หายสนิท

 

5.มีกลิ่นปาก เพราะโรคเหงือกอักเสบเป็นโรคจากแบคทีเรีย และแบคทีเรียเหล่านี้คือตัวการที่ทำให้มีกลิ่นปาก และต่อให้แปรงฟันบ่อยขนาดไหน ก็ยังคงมีกลิ่นปากอยู่

 

6.สีเหงือกเริ่มแดงคล้ำ จากการอักเสบในบริเวณที่แบคทีเรียเข้าไปกินคราบพลัค (ขี้ฟัน) ที่เกาะบริเวณฟัน แบคทีเรียเหล่านี้จะถ่ายของเสียที่สามารถกัดกินเนื้อเยื้อบริเวณฟันและเหงือก ซึ่งร่างกายพยายามกำจัดสิ่งเหล่านี้ ทำให้บริเวณนี้เกิดความร้อน ที่ส่งผลให้เหงือกบริเวณนี้เปลี่ยนเป็นสีแดง

 

7.เหงือกบวม มีอาการเจ็บ ปวดตึง เพราะคราบจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่สะสมเริ่มก่อตัวกลายเป็นหินปูน สร้างการอักเสบ ระคายเคือง

 

8.มีแผลร้อนในเรื้อรัง หรือ มีหนอง มักเกิดขึ้นกับคนที่มีฟันผุที่ไม่ได้รักษา ที่ทำให้มีเชื้อแบคทีเรียสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้เป็นโรคเหงือกอักเสบ 

 

9.ฟันโยก ฟันคลอน ในบางรายอาจจะมีอาการปวดฟันร่วมด้วย เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่เริ่มเข้าไปทำลายบริเวณเหงือก และเริ่มเข้าไปทำลายรากฟันแล้ว


 

ยาแก้ปวด แก้อักเสบ ไม่ได้ช่วยให้โรคเหงือกอักเสบหาย ได้เพียงแค่บรรเทาอาการเท่านั้น

 

 

หมอมีน

พท.ป.จิราณี กิจศิริพิพัฒน์

มีคนไข้จำนวนมากมาปรึกษาหมอด้วยอาการเหล่านี้

 

“ปวดเหงือก เจ็บ ระบมจนเคี้ยวอาหารไม่ไหว ลามไปจนฟันเริ่มโยก เวลาปวดสุด ๆ หลายคนก็มักจะ ทานยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ แต่พอหมดฤทธิ์ยาก็กลับมาปวดใหม่

วนเวียนกันแบบนี้จนไม่เคยหายสนิทสักที สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตมาก”

 

หมอเจอเคสแบบนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เขาไม่รู้วิธีการรักษาจริง ๆ

> บางคนไปหาหมอฟันก็ยังไม่หาย 

> บางคนไปถอนฟันมาแล้วอาการยิ่งหนักกว่าเดิม 

> บางคนทานยาแก้ปวดจนกลัวตับ ไต พัง 

 

 

จนหมอรู้สึกว่าอยู่เฉยไม่ได้แล้ว วันนี้หมอเลยอยากมาแบ่งปันตัวช่วยคนไข้ที่เป็น โรคเหงือกอักเสบ

 

ให้สามารถหายกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ ได้อย่างรวดเร็ว

 

วิธีการรักษา โรคเหงือกอักเสบ เร่งด่วน ด้วยน้ำยาบ้วนปาก สมุนไพร สูตรเฉพาะรักษา โรคเหงือกอักเสบ
 

 

 

 

 

บรรเทาอาการ ออกฤทธิ์ทางยา ไม่ต้องหาหมอ
หายปวดได้ทันที ใน 3 นาที ตั้งแต่ครั้งแรก 

 

 

ใครปวดจนแปรงฟันไม่ได้ ให้เริ่มใช้ตัวนี้รักษา 

 

 

 

 

 

 

คุณหมอกับปุณรดายาไทย ได้ร่วมพัฒนา น้ำยาบ้วนปากสมุนไพรสูตรเฉพาะ (Gum:D) เพื่อช่วยลดอาการเหงือกอักเสบ ช่วยในการยับยั้งเชื้อ และ ลดอาการปวดฟัน

อย่างตรงจุด และหลังจากมีคนไข้จำนวนหลายร้อยคนได้ทดลองใช้ พบว่าอาการดีขึ้นตามลำดับและอาการลดลง จนแทบไม่รู้สึกปวดอีก ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ 

และภายในระยะเวลาประมาน 1 สัปดาห์ คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้เป็นปกติ โดยไม่รู้สึกว่ามีอาการของโรคเหงืออักเสบมารบกวนอีกแล้ว
(ระยะเวลาขึ้นอยู่กับอาการและความเรื้อรังของแต่ละบุคคล)

 

 

 

ปุณรดายาไทย น้ำยาบ้วนปากสมุนไพร รักษาโรคเหงือกอักเสบ (Gum:D)
 

 

 

สูตรอ่อนโยน ไม่มีสารเคมี

 

ใช้ได้ตั้งแต่เด็กอายุ 4 ขวบ
รสชาติที่เด็กไม่ร้องอี๊ กำจัดคราบนม ก่อนนอน

หรือ

คุณยายวัย 90 ปี ที่ไม่อยากไปหาหมอฟันก็ใช้ได้
ไม่กัดเหงือก ไม่แสบปาก ไม่ระคายเคือง

 

 

สมุนไพรหลัก 4 ชนิด

ที่มีสรรพคุณ ช่วยรักษาโรคเหงือกอักเสบโดยเฉพาะ

 

  1. สะแบง : แก้ปวดฟัน เสียวฟัน แก้ฟันโยกคลอน

  2. อบเชย : แก้ปวดฟัน แก้หวัด แก้ไอ ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ต้านการอักเสบ

  3. กานพลู : แก้เสมหะเหนียว แก้เลือดออกตามไรฟัน  มีฤทธิ์เป็นยาชา แก้ปวดฟัน ดับกลิ่นปาก รักษาแผลร้อนใน เป็นยาฆ่าเชื้อ ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ต้านการอักเสบ

  4. เมนทอล : มีฤทธิ์เป็นยาชาอ่อนๆ ช่วยลดอาการปวดบวม ลดการอักเสบในลำคอ แก้ไอ ช่วยลดกลิ่นปาก

 

 

 

 

 

วิธีการใช้ให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจน :

 

บ้วนทันทีหลังแปรงฟัน หรือ หลังทานอาหาร อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 ฝา หรือ 10 ml. อมกลั้วปาก 3-4 นาที แล้วบ้วนทิ้ง​

 

ใช้ได้ตั้งแต่เด็กอายุ 4 ขวบขึ้นไป  และ ผู้ป่วยที่ให้เคมีบำบัด ฉายแสง ใช้ได้ ไม่แสบปาก

 

 

 

 

 

 

 

ปลอดภัยผ่านการตรวจสอบ จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

เลขจดแจ้ง 33-1-6600020756

 

 

 

ความคิดเห็นจากลูกค้าที่ใช้จริง

จากประสบการณ์ผู้ใช้กว่า 90% เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน โดยอาการเหงือกบวมอักเสบลดลงจนไม่รู้สึกปวดอีก กลิ่นปากลดลง ลมหายใจหอมสดชื่น เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องช่วยให้รากฟันแข็งแรง

ลดโอกาสการเกิดฟันคลอน ฟันโยกได้ และนี่คือ ความคิดเห็นจากลูกค้าบางส่วนที่รักษาโรคเหงือกอักเสบได้ด้วย น้ำยาบ้วนปากสมุนไพร

 

 

 

 

 

 

 

โปรโมชั่นพิเศษ ครบรอบ 12 ปี!!
ร้านขายยา ปุณรดายาไทย

 

 

 

 

 

ขอบคุณลูกค้ามากกว่า 100,000 คน
ที่ไว้วางใจ ร้านขายยาปุณรดา มาโดยตลอด

 

 

 

ทุกๆคำสั่งซื้อน้ำยาบ้วนปากสมุนไพร รักษาโรคเหงือกอักเสบ Gum:D 

คุณมีส่วนร่วมในการสนับสนุนชุมชน อุดหนุนและส่งเสริมเกษตรกรไทยให้มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง  

เพราะ

ปุณรดายาไทย ทำงานร่วมกับวิสาหกิจชุมชน สมุนไพรทุกชนิดของผลิตภัณฑ์นี้ 

อุดหนุนและส่งเสริมเกษตรกรไทย 100% ในราคาที่ดีกว่าตลาดทั่วไป 

เพื่อให้ชุมชมยั่งยื่นอย่างมั่นคงไปพร้อมกับปุณรดายาไทย

 

 

 

 

 

 

มั่นใจ ปลอดภัย สั่งสินค้าได้รับของแน่นอน จัดส่งเร็ว 

ปุณรดายาไทย มีหน้าร้านอยู่ที่ โครงการเวิร์คเพลส จรัญสนิทวงศ์-ราชพฤกษ์

แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ

ติดต่อ 02-114-7027




 

 

 

 

 

 


ทีมแพทย์แผนไทยปุณรดา

สุรดา เลิศเกศราธรรม

ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร

"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"

พท.ป.จิราณี กิจศิริพิพัฒน์

แพทย์แผนไทยประยุกต์

"พื้นฐานของสุขภาพดีคือการใส่ใจดูแลธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย ให้สมดุลกันเสมอ"

พท.ปฐมาพรรณ บุญประเสริฐ

แพทย์แผนไทย

" การเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ด้วยวิถีธรรมชาติ เป็นเกราะป้องกันโรค ทางกายและใจ "


ปุณรดา ยาไทย
แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด

ท่านจะได้รับทราบโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครทาง LINE@ พร้อมบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์แบบส่วนตัวฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

ข้อความถึงร้าน


× คุณได้เพิ่มสนค้าลงตะกร้า ดูสินค้าในตะกร้า