เนื้องอกมดลูก เนื้องอกรังไข่ อันตรายไหม? มีวิธีดูแลอย่างไรเพื่อไม่ให้โตขึ้น

วิธีดูแลสุขภาพตามหลักแพทย์แผนไทย

เนื้องอกมดลูก เนื้องอกรังไข่ อันตรายไหม? มีวิธีดูแลอย่างไรเพื่อไม่ให้โตขึ้น

เนื้องอกมดลูกและรังไข่จัดเป็นเนื้องอกที่พบได้บ่อยในผู้หญิง เป็นโรคที่เกิดจากเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกและรังไข่เจริญเติบโตผิดปกติซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานของฮอร์โมนเพศที่ชื่อว่าเอสโตรเจน เนื้องอกมดลูกและรังไข่มีทั้งเนื้อดีและเนื้อร้าย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อดี หากมีขนาดเล็กจะไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่หากมีขนาดใหญ่ขึ้นจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ทำให้มีอาการปวด ประจำเดือนมาไม่ปกติ รวมถึงส่งผลให้มีบุตรยากร่วมด้วยค่ะ

 

วันนี้หมอจะพาท่านผู้อ่านมาดูเช็คลิสต์อาการเนื้องอกมดลูกและรังไข่ ไขข้อข้องใจว่าใครเป็นกลุ่มเสี่ยงบ้าง หากสงสัยว่าเป็นเนื้องอกจะตรวจอย่างไร และมาบอกวิธีดูแลตนเองให้ครบจบในบทความนี้เลยค่ะ เรามาเริ่มที่อาการกันก่อนเลยนะคะ

 

อาการของเนื้องอกมดลูกและรังไข่ 


ส่วนใหญ่ตอนที่ก้อนเนื้องอกยังมีขนาดเล็กมักไม่มีอาการอะไร แต่เมื่อเนื้องอกเริ่มโตขึ้น จะเริ่มแสดงอาการผิดปกติออกมา ในส่วนของเนื้องงอกอาจมีก้อนเดียวหรือหลายก้อนก็ได้ หรืออาจมีเนื้องอกหลายชนิดปนกันก็ได้ โดยอาการสำคัญของเนื้องอกมดลูกและรังไข่ ได้แก่ 

• ปวดท้องประจำเดือน ปวดหน่วงท้องน้อย

• ประจำเดือนมาไม่ปกติ เช่น ประจำเดือนมาบ่อยผิดปกติ (มามากกว่าหรือเท่ากับ 2 ครั้งใน 1 เดือน) นานๆครั้งมา(มาไม่ทุกเดือน) หรือมาในปริมาณมาก (ต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ 2-3 ชั่วโมง ประจำเดือนเต็มแผ่นทุกครั้ง และมีประจำเดือนมากกว่า 7 วัน)

• ท้องโตขึ้นจนคลำก้อนได้ มักคลำพบก้อนบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือช่องท้องในกรณีที่เนื้องอกมีขนาดใหญ่หรือมีจำนวนมาก

• ท้องอืด เบื่ออาหาร

• ปัสสาวะบ่อยขึ้น ปัสสาวะลำบาก

• ท้องผูก ปวดหน่วงทวารหนัก เนื่องจากเนื้องอกอาจไปกดเบียดลำไส้

• หากเนื้องอกโตนอกมดลูกและเกิดการบิดขั้วของก้อนเนื้องอก จะทำให้เกิดอาการปวดท้องเฉียบพลันร่วมกับมีไข้และคลื่นไส้ได้

 

เป็นอย่างไรบ้างคะ พอทราบอาการกันแล้ว หลายๆท่านคงสงสัยใช่ไหมคะ ว่าใครบ้างที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเนื้องอกมดลูกและรังไข่ แล้วตัวเราเองจะเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ มาดูกันเลยค่ะ

 

ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเนื้องอกมดลูกและรังไข่


1. ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะช่วงอายุ 25-30 ปี เนื่องจากเป็นช่วงอายุที่ฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนทำงานเต็มที่ ขณะที่ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนเนื้องอกจะมีขนาดเล็กลงเนื่องจากระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง จึงทำให้เนื้องอกไม่เจริญเติบโตและฝ่อไปในที่สุด

2. ผู้หญิงที่มีประวัติรับประทานยาฮอร์โมนเอสโตรเจน(ยาคุมชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ยาเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิง) หรืออาหารที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนไฟโตเอสโตรเจน(เช่น ถั่วเหลือง น้ำมะพร้าว กวาวเครือ) ซึ่งเมื่อใช้ติดต่อกันนานๆจะกระตุ้นให้เกิดเนื้องอกมดลูกและรังไข่ได้

3. ผู้หญิงที่มีประวัติคนในครอบครัวมีเนื้องอกมดลูกและรังไข่ เนื่องจากความเสี่ยงทางพันธุกรรมนี้จะเกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนและการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงมีความเสี่ยงที่ฮอร์โมนจะทำงานมากกว่าปกติและกระตุ้นให้เกิดเนื้องอกขึ้นได้ค่ะ

 

หากท่านผู้อ่านกำลังมีอาการของเนื้องอกตามที่หมอกล่าวมา และอยู่ในกลุ่มเสี่ยง 1 ใน 3 ข้อนี้ร่วมด้วย ไม่ควรปล่อยเอาไว้นะคะ ควรรีบไปตรวจเพื่อหาสาเหตุของอาการก่อนรับการรักษาค่ะ

 

การตรวจเนื้องอกมดลูกและรังไข่ สามารถตรวจได้ด้วยการอัลตราซาวด์ 2 วิธี ได้แก่

• การตรวจอัลตราซาวด์ทางหน้าท้อง โดยแพทย์จะให้คนไข้ดื่มน้ำเปล่าแล้วกลั้นปัสสาวะเอาไว้ เพื่อให้สามารถมองเห็นมดลูกและรังไข่ได้ชัดเจนก่อนทำการตรวจ

• การตรวจอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด โดยแพทย์จะทำการสอดอุปกรณ์อัลตราซาวด์เข้าไปทางช่องคลอด สามารถมองเห็นมดลูกและรังไข่ได้ชัดเจนเช่นกันค่ะ

 

สำหรับท่านผู้อ่านที่ตรวจพบเนื้องอกมดลูกและรังไข่แล้ว ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเยอะหรือเป็นน้อย เนื้องอกมีขนาดเล็กหรือใหญ่ เราสามารถดูแลสุขภาพเพื่อชะลอการโตขึ้นของเนื้องอกได้ค่ะ

 

แนวทางการ​ดูแล​สุขภาพสำหรับโรคเนื้องอกมดลูกและรังไข่


1. งดอาหารที่กระตุ้นเนื้องอก ได้แก่ อาหารที่มีไฟโตเอสโตรเจนสูง เช่น ถั่วเหลือง​ มะพร้าว กวาวเครือ และ อาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากไขมันเป็นแหล่งในการสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีไขมันมากๆจะทำให้ปริมาณของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น กระตุ้นให้เนื้องอกมีขนาดใหญ่ขึ้น

2. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เนื่องจากกระตุ้นการเพิ่มจำนวนของสารอนุมูลอิสระในร่างกาย มีส่วนทำให้เนื้องอกโตเร็วขึ้น

3, ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เนื่องจากผู้ที่มีไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้น ส่งผลมีการเปลี่ยนแอนโดรเจนเป็นเอสโตรเจนมากขึ้น ทำให้มีฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายมากขึ้นและกระตุ้นให้เนื้องอกมีขนาดเพิ่มขึ้นได้

4. ออกกำลังกายเป็นประจำ สัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง เช่น โยคะ แอโรบิก เดินเร็ว ชี่กง ยิมนาสติก เนื่องจากการออกกำลังกายจะช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนได้ แต่ไม่ควรออกหนักจนเกินไป

5. หลีกเลี่ยงการทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (เอสโตรเจน) เพราะทำให้เพิ่มปริมาณฮอร์โมนเพศหญิงมากขึ้นไปกระตุ้นเนื้องอกให้มีขนาดใหญ่ขึ้น แนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ฝังยาคุม หรือการคุมกำเนิดแบบไม่ใช้ฮอร์โมนแทน

 

นอกจากการดูแลสุขภาพแล้ว หมอแนะนำให้ติดตามอาการต่อเนื่องเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของเนื้องอก รวมถึงใช้ยารักษาร่วมด้วย เพื่อให้ก้อนเนื้องอกมีขนาดเล็กลง ยุบลง ไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตนะคะ 

 

ในส่วนของการรักษาด้วยยาสมุนไพร สามารถรักษาได้โดยการใช้ตำรับยาที่ช่วยทำให้เนื้องอกมีขนาดเล็กลง ปรับสมดุลฮอร์โมนให้กลับมาปกติ ชะลอการโตของเนื้องอก รวมถึงใช้สมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการปวดหน่วงท้องน้อย แก้ท้องอืด ท้องผูกตามลักษณะอาการของแต่ละท่านค่ะ

 

การรักษาด้วยยาไทย


• สมุนไพร B-Treat ตำรับยาบำรุงและขับฟอกน้ำเหลือง

 

 

• มีส่วนประกอบของ ข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ เหงือกปลาหมอ ฝักราชพฤกษ์ คงคาเดือด หัวร้อยรู และตัวยาสำคัญอื่นๆ 

• มีสรรพคุณ ช่วยบำรุงเลือด น้ำเหลือง ช่วยลดขนาดของเนื้องอก ลดอาการอักเสบภายในมดลูกและรังไข่

 

• สมุนไพร B-Young ตำรับยาบำรุงร่างกายและปรับสมดุลฮอร์โมน 

 

 

• มีส่วนประกอบของ โกฐเชียง โกฐหัวบัว กำลังวัวเถลิง เปลือกตะโกนา และสมุนไพรอื่นๆ

• มีสรรพคุณ ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน ทำให้ฮอร์โมนต่างๆในร่างกายทำงานเป็นปกติ บำรุงมดลูกให้แข็งแรง ป้องกันและชะลอการเพิ่มจำนวนของเนื้องอก

 

• ยาหอมนวโกฐ ตำรับยาไทยอันดับ 1 ในการปรับสมดุลธาตุลม

 

 

• มีส่วนประกอบของ ดอกบุนนาค เกสรบัวหลวง กฤษณา ลูกจันทน์ แก่นจันทน์แดง เทียนดำ รากช้าพลู หัวแห้วหมู โกฐเชียง และสมุนไพรอื่นๆ

• มีสรรพคุณ ปรับสมดุลธาตุลม บำรุงเลือด ลดอาการปวดหน่วงท้องน้อย แก้อาการอ่อนเพลีย

 

• สมุนไพร Clear

 

 

• มีส่วนประกอบของ โกฐน้ำเต้า โกฐกระดูก โกฐเขมา มะขามป้อม รงทอง สมอไทย เทียนดำ มหาหิงค์ กระวาน กานพลู ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ ขิง และสมุนไพรอื่นๆ

• มีสรรพคุณ ลดอาการจุกแน่นท้อง ช่วยระบายของเสียออกจากมดลูกและรังไข่ ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก ป้องกันและรักษาอาการท้องผูก

 

การรักษาเนื้องอกมดลูกและรังไข่กับปุณรดายาไทย หมอจะจัดตำรับยาสมุนไพรแบบเฉพาะราย โดยจัดยาตามอาการ สุขภาพโดยรวม และ ความเรื้อรังที่เป็น เมื่อใช้สมุนไพรควบคู่กับการดูแลสุขภาพตามที่หมอแนะนำอย่างต่อเนื่อง อาการเนื้องอกมดลูกและรังไข่จะค่อยๆดีขึ้น ค่อยๆฝ่อยุบลงค่ะ

 

ปุณรดายาไทยมีผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและทีมแพทย์แผนไทยที่มีประสบการณ์ยินดีให้คำปรึกษาสำหรับการใช้สมุนไพรรักษาเนื้องอกมดลูกและรังไข่ เมื่อไหร่ที่คุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และต้องการทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งมากขึ้นด้วยศาสตร์ธรรมชาติ ที่นำเอาการแพทย์แผนไทยมาประยุกต์ใช้ นึกถึงปุณรดายาไทยนะคะ เพราะเราคือ “แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด”


#เนื้องอกมดลูกและรังไข่ #เนื้องอกมดลูก #เนื้องอกรังไข่ #สมุนไพรรักษาเนื้องอก #ปุณรดายาไทย #ปุณรดายาไทยแพทย์แผนไทยที่ใกล้คุณที่สุด    

 

ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

 

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027


ทีมแพทย์แผนไทยปุณรดา

สุรดา เลิศเกศราธรรม

ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร

"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"

พท.ป.จิราณี กิจศิริพิพัฒน์

แพทย์แผนไทยประยุกต์

"พื้นฐานของสุขภาพดีคือการใส่ใจดูแลธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย ให้สมดุลกันเสมอ"

พท.ปฐมาพรรณ บุญประเสริฐ

แพทย์แผนไทย

" การเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ด้วยวิถีธรรมชาติ เป็นเกราะป้องกันโรค ทางกายและใจ "


ปุณรดา ยาไทย
แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด

ท่านจะได้รับทราบโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครทาง LINE@ พร้อมบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์แบบส่วนตัวฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

ข้อความถึงร้าน


× คุณได้เพิ่มสนค้าลงตะกร้า ดูสินค้าในตะกร้า