5สัญญาณผิวแก่ก่อนวัย! รู้ไว้ก่อนสาย

การมีใบหน้าและผิวพรรณที่เปล่งปลั่งสดใส ย่อมเป็นสิ่งที่ส่งเสริมให้เรามีบุคลิกภาพที่ดีและมีความมั่นใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น หมอเชื่อว่าท่านผู้อ่านทุกท่านก็คงอยากมีผิวพรรณที่แลดูสุขภาพดี ไม่มีใครอยากแก่ก่อนวัยอันควรใช่ไหมคะ แต่ด้วยการใช้ชีวิตในปัจจุบัน มีหลายสาเหตุที่ทำให้ผิวของเราแก่ก่อนวัยและดูแก่เกินอายุจริง สร้างความกังวลใจให้กับผู้หญิงเราไม่น้อยเลยค่ะ

วันนี้หมอจะพาท่านผู้อ่านมาเช็คลิสต์สัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของเราแก่ก่อนวัย เจาะลึกสาเหตุที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย และมาบอกแนวทางในการดูแลตนเองเพื่อป้องกันภาวะผิวแก่ก่อนวัยค่ะ

5 สัญญาณผิวแก่ก่อนวัย

1. ผิวไม่กระชับ หย่อนคล้อย

2. ผิวหน้าแห้งกร้าน หมองคล้ำ ไม่สดใส

3. มีริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา รอยตีนกา มีร่องลึกใต้ตา

4. มีฝ้า กระ บนใบหน้า

5. ริมฝีปากบาง ไม่อวบอิ่ม เล็กลง และ มุมปากตก

หากท่านผู้อ่านมีลักษณะผิวตามนี้ตั้งแต่ 1 ข้อขึ้นไป ถือว่าเริ่มมีสัญญาณเตือนผิวแก่ก่อนวัย ควรรีบแก้ไขก่อนสายเกินไปค่ะ ลำดับต่อมาหมอจะพามาดูสาเหตุที่ทำให้ผิวของเราแก่ก่อนวัย ว่ามีอะไรบ้างนะคะ

สาเหตุที่ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย สามารถแบ่งออกเป็น 2 สาเหตุหลักๆ คือ จากสิ่งแวดล้อม และ พฤติกรรม ดังนี้ค่ะ

สาเหตุจากสิ่งแวดล้อม

• แสงแดด เนื่องจากมีรังสี UVA UVB ที่สามารถทำลายชั้นผิวหนังได้ ทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ผิวแห้งกร้าน ก่อให้เกิดริ้วรอยบนผิวหนัง

• มลพิษหรือสารเคมีต่างๆ ซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระ มีผลกระตุ้นให้เกิดริ้วรอยและจุดด่างดำบนผิวหนัง

สาเหตุจากพฤติกรรม

• การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงและคาร์โบไฮเดรตขัดสีมากเกินไป ทำให้โปรตีนอีลาสตินและคอลลาเจนซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนังเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ความยืดหยุ่นของผิวหนังลดลง เกิดการหย่อนคล้อย ไม่กระชับ

• การดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย อนุมูลอิสระเป็นตัวกระตุ้นให้ผิวแก่เร็วขึ้น รวมถึงทำให้ปริมาณน้ำในเซลล์ผิวลดลง ส่งผลให้ผิวเหี่ยวและเกิดริ้วรอยได้ง่าย

• การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม มากเกินไป (เกิน 400 มิลลิลิตรต่อวัน) เนื่องจากคาเฟอีนทำให้ร่างกายขับปัสสาวะออกมามากส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำ ส่งผลให้ผิวแห้ง ผิวหนังอักเสบ และเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น

• การสูบบุหรี่ เนื่องจากสารนิโคตินในบุหรี่ทำให้เส้นเลือดที่บริเวณผิวหนังตีบตัน เลือดไหลเวียนไม่ดี ส่งผลให้ผิวแห้ง หมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ

• การปล่อยให้ผิวแห้ง เมื่อผิวแห้งและขาดความชุ่มชื้น จะทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย

• การไม่ล้างเครื่องสำอางก่อนนอน ล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด หรือเช็ดถูแรงเกินไป จะส่งผลให้ใบหน้าเกิดริ้วรอย รวมถึงเกิดสิวอุดตันได้ง่าย

• การนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ ทำให้ผิวหน้าเสียดสีหรือกดทับกับหมอนจนเกิดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หางตา และแก้ม โดยริ้วรอยเหล่านี้จะเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อผิวขาดความกระชับและยืดหยุ่น

• ความเครียดสะสม เนื่องจากเวลาเครียดคนเรามักเผลอขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว เป็นการแสดงออกทางสีหน้าที่หากทำบ่อยครั้งจะทำให้เกิดริ้วรอยบริเวณหัวคิ้ว หางตา หรือ มุมปาก จากการหดหรือเกร็งตัวของกล้ามเนื้อบริเวณนั้น รวมถึงทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นได้ง่าย

• การนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากปกติในช่วงเวลากลางคืนร่างกายจะหลั่งสาร Growth Hormone ออกมาเพื่อช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ หากนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะหลั่งสาร Cortisol หรือฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมาแทน ส่งผลให้เซลล์ส่วนที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระถูกทำลาย คอลลาเจนในชั้นใต้ผิวลดลง เกิดปัญหาผิวเหี่ยวและหย่อนคล้อย

หากท่านผู้อ่านมีสาเหตุและปัจจัยที่ทำร้ายผิวทั้งจากสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมตามนี้ หมอแนะนำให้ปรับลดหรือหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ เพื่อชะลอความเสื่อมของผิวหนัง รวมถึงสามารถดูแลและป้องกันภาวะผิวแก่ก่อนวัยด้วยวิธีดังต่อไปนี้ได้เลยค่ะ

วิธีป้องกันผิวแก่ก่อนวัย

1. พักผ่อนให้เพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมง โดยควรเข้านอนภายใน 22.00 น.เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ทำให้ผิวพรรณสดใส ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า

2. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ โดยดื่มน้ำให้ได้ 5% ของน้ำหนักตัว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังทำให้ผิวเต่งตึง สดใส

3. หลีกเลี่ยงสูบบุหรี่ รวมถึงจำกัดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

4. นวดยกกระชับใบหน้า โดยใช้ปลายนิ้วมือทั้งสองข้างนวดวนเป็นวงกลมตั้งแต่ปลายคางจนถึงขมับ เพื่อช่วยลดการบวมน้ำ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ใบหน้ากระชับ ดูอ่อนกว่าวัย

5. ดูแลผิวรอบดวงตา โดยการทา Eye Cream และ ประคบเย็นด้วยเจลเย็น ผ้าห่อน้ำแข็ง หรือใช้ช้อนแช่เย็นประคบรอบดวงตา 2 ครั้ง เช้าและเย็น เพื่อช่วยให้อาการบวมรอบดวงตาดีขึ้น ช่วยลดริ้วรอยใต้ตา

6. ทาครีมกันแดด เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 15-30 นาที และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF (Sun Protection Factor) อย่างน้อย 15-30 เท่า แต่ถ้าเป็นการออกแดดตลอดวันควรใช้ครีมกันแดดที่ค่า SPF 50++ ขึ้นไป เพราะค่า SPF ที่สูง จะสามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีบีได้ดีกว่า กรณีว่ายน้ำหรือเล่นน้ำ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดชนิดกันน้ำ นอกจากการทาครีมกันแดดทั้งผิวหน้าและผิวกายเป็นประจำแล้ว ควรใช้ลิปบาล์มที่มีสารกันแดดด้วยนะคะ

7. ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์(สารให้ความชุ่มชื่น)เป็นประจำ เช่น โลชั่น ครีม หรือ ออย เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง เพราะหากปล่อยให้ผิวแห้งจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น แนะนำให้ทาหลังอาบน้ำทันที เช้า-เย็น หรือทาบ่อยๆในกรณีที่ผิวแห้งมาก และ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม เพื่อลดโอกาสในการแพ้และระคายเคือง

8. ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีส่วนประกอบดังนี้

• เกสรบัวหลวง (Lotus Stamen) มีสรรพคุณ ช่วยทำให้ฝ้า กระ จุดด่างดำจางลง ผิวขาวกระจ่างใส กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียน นุ่มน่าสัมผัส และยังช่วยลดการอักเสบ บวม แดง อาการผิวไหม้จากแสงแดด หรือ อาการแพ้เฉียบพลัน ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย

• ชาเขียว (Green tea) มีสรรพคุณ ช่วยดึงสิ่งสกปรกออกจากผิวหนัง กระชับรูขุมขน ช่วยให้ผิวกระจ่างใสสุขภาพดี ช่วยลดอาการอักเสบ ต้านแบคทีเรีย ลดการระคายเคือง ทำให้สิวอักเสบยุบลง ลดอาการบวม แดง และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้นุ่มและยืดหยุ่นได้ดีมากขึ้น

• ขิง (Ginger) มีสรรพคุณ ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและสารอนุมูลอิสระ

• ดอกลิลลี่สีขาว (White lilly) มีสรรพคุณ ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว ยับยั้งการก่อตัวของเมลานิน ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส

• น้ำมันอัลมอนด์ (Almond oil) มีสรรพคุณ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ลดการอักเสบ ลดอาการแพ้ และการระคายเคือง ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่ชุ่มชื่น สุขภาพดี

• น้ำมันมะพร้าว (Coconut oil) มีสรรพคุณ ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น ลดอาการแห้ง ลดอาการคัน รักษาโรคผิวหนัง

• น้ำมันธรรมชาติ (Natural oil) มีสรรพคุณ ช่วยซ่อมแซมและดูแลผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ความชุ่มชื้นสูง เหมาะสำหรับบำรุง และฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้าน ผิวแพ้ง่าย ลดการอักเสบของผิว ช่วยลดริ้วรอย

• น้ำมันงา (Sesame Oil) มีสรรพคุณ ช่วยทำให้ผิวอ่อนเยาว์ ทำให้ผิวขาว อ่อนนุ่ม ลดการระคายเคืองที่ผิว

ในการดูแลรักษาปัญหาผิวตามแบบฉบับของปุณรดายาไทย หมอแนะนำการใช้สบู่ออร์แกนิคสำหรับผิวหน้าและผิวกายดังนี้ค่ะ

สบู่เกสรบัวหลวง

มีส่วนประกอบของ เกสรบัวหลวง ขิง และอื่นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ปัญหารอยดำจากสิว รอยแดง ผิวไหม้แดด ผิวแพ้เฉียบพลัน ฝ้า กระ ผิวไม่เรียบเนียน ช่วยฟื้นฟูผิวให้อิ่มฟูชุ่มน้ำ ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย

สบู่ชาเขียว

มีส่วนประกอบของใบชาเขียว ขิง และอื่นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวอักเสบ บวมแดง ผิวแพ้ง่าย ช่วยเสริมสร้างให้ผิวกลับมาแข็งแรง เต่งตึง กระชับ

ออยล์อาบน้ำ Derpa derma shower oil milk

มีส่วนประกอบของ ดอกลิลลี่สีขาว น้ำมันมะพร้าว น้ำมันธรรมชาติ และอื่นๆ เหมาะสำหรับผิวแห้ง บอบบาง แพ้ง่าย ผิวหนังอักเสบ ช่วยฟื้นฟูผิว พร้อมบำรุงผิวให้กลับมาแข็งแรง ชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ

เป็นอย่างไรบ้างคะ ข้อมูลการดูแลสุขภาพสำหรับดูแลและป้องกันผิวแก่ก่อนวัยที่หมอนำมาฝากในวันนี้ สามารถนำไปปฏิบัติได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ เมื่อดูแลสุขภาพตามนี้อย่างต่อเนื่องเป็นประจำ หมอรับรองได้ว่าผิวที่แห้งกร้าน หย่อนคล้อย ไม่กระชับ หมองคล้ำ มีริ้วรอย หรือมีจุดด่างดำ จะค่อยๆกลับมามีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ เต่งตึง กระจ่างใส แลดูสุขภาพดีได้อย่างแน่นอนค่ะ

ปุณรดายาไทยมีผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและทีมแพทย์แผนไทยที่มีประสบการณ์ยินดีให้คำปรึกษาสำหรับการใช้สมุนไพรเพื่อป้องกันและฟื้นฟูผิวแก่ก่อนวัย สามารถปรึกษาอาการเข้ามาทาง Line ของปุณรดายาไทยได้เลยนะคะ ทางเรามีคุณหมอคอยดูแลให้คำแนะนำทุกวัน ตั้งแต่ 09:00 - 21:00 เลยค่ะ ติดต่อทาง Line id : @poonrada หรือ โทร 02-1147027 นะคะ

#วิธีแก้ผิวแก่ก่อนวัย #ผิวแก่ก่อนวัย #ผิวแก่ #ปุณรดายาไทย

#ปุณรดายาไทยแพทย์แผนไทยที่ใกล้คุณที่สุด

ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027