อาหารบำรุงน้ำนมมีอะไรบ้าง?

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้หมอป๊อปจะมาบอกเล่าสาระสุขภาพให้กับท่านผู้อ่านอีกเช่นเคยค่ะ ครั้งนี้มาในหัวข้อของคุณแม่ให้นมนะคะ หมอเองเป็นหนึ่งในคุณแม่ที่ให้นมลูกด้วยตนเอง และทราบดีว่าคุณแม่หลังคลอดส่วนใหญ่ โดยเฉพาะครรภ์แรกๆ มักจะมีปัญหาน้ำนมมาน้อย น้ำนมมาช้า น้ำนมไม่เพียงพอ

ตัวหมอก็มีปัญหาเหล่านี้เช่นกัน เนื่องจากหลังคลอดลูกคนแรกน้ำนมมาน้อยค่ะ เมื่อน้ำนมมาน้อย สิ่งแรกที่คุณแม่มักจะทำก็คือการทานอาหารบำรุงน้ำนม วันนี้หมอจะมาแนะนำอาหารบำรุงน้ำนมให้กับคุณแม่นะคะ อาหารที่หมอคัดมาให้ ผ่านการทดลองแล้วว่าเห็นผลดี ทานแล้วน้ำนมพุ่ง น้ำนมมาเต็มเต้าเลยค่ะ

ก่อนแนะนำเรื่องอาหารบำรุงน้ำนม หมอขอสอบถามคุณแม่ก่อนนะคะ ว่าคุณแม่เคยสงสัยไหมคะ ว่าตัวเรามีน้ำนมเพียงพอแล้วหรือยัง ต้องบำรุงน้ำนมหรือไม่ ต้องเพิ่มน้ำนมอีกเท่าไหร่ จึงจะเพียงพอสำหรับลูกน้อย วันนี้หมอรวบรวมข้อมูลมาตอบทุกข้อสงสัยให้เรียบร้อยแล้วค่ะ

ปริมาณน้ำนมปกติที่ควรมีหลังคลอดที่เพียงพอต่อทารก

นอกจากปริมาณน้ำนมตามเกณฑ์อายุแล้ว คุณแม่สามารถสังเกตความเพียงพอของน้ำนมหลังการให้นมจากตัวลูกน้อยเองได้ดังนี้ค่ะ

1. ลูกน้อยนอนหลับง่าย ไม่ร้องงอแง

2. ลูกน้อยอุจจาระและปัสสาวะบ่อย โดยเด็กเเรกเกิด จะปัสสาวะประมาณ 10-20 ครั้งต่อวัน และอุจจาระประมาณ 10 ครั้งต่อวัน แต่เมื่อผ่านไปสัก 2-3 เดือน ความถี่จะลดน้อยลง และ เด็กอายุไม่เกิน 1 ขวบ จะปัสสาวะประมาณ 10 ครั้งต่อวัน และ อุจจาระประมาณ 2 ครั้งต่อวัน

3. ลูกน้อยมีน้ำหนักตัวมากขึ้นตามเกณฑ์อายุ

เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีความต้องการแตกต่างกัน แม้จะอายุเท่ากัน น้ำหนักตัวเท่ากัน อาจต้องการน้ำนมในปริมาณที่ไม่เท่ากัน คุณแม่จึงต้องสังเกตความต้องการของลูกน้อยร่วมด้วยเพื่อดูว่าน้ำนมของเราเพียงพอหรือไม่นะคะ หากลูกน้อยดื่มนมแล้วผลลัพธ์เป็นไปตาม 3 ข้อนี้ ถือว่าน้ำนมเพียงพอค่ะ

สำหรับคุณแม่ที่น้ำนมไม่เพียงพอ นอกจากการให้นมตามปกติแล้ว หมอแนะนำให้ปั๊มนมเก็บไว้ เพื่อไว้ให้ลูกน้อยทานเสริมในมื้อถัดๆไป ไว้ทานตอนที่คุณแม่ไปทำงาน ไปธุระ หรือเก็บไว้ยามฉุกเฉินได้ค่ะ การปั๊มนมนอกจากจะทำให้มีปริมาณน้ำนมสำรองแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นน้ำนมอีกทางหนึ่งด้วย เพราะยิ่งให้นมเยอะ ปั๊มออกเยอะ ร่างกายก็จะสร้างน้ำนมให้เยอะตามปริมาณการให้นมนั่นเองค่ะ แต่ไม่ควรปั๊มมากเกินไป เพราะจะทำให้หัวนมคุณแม่แตก และ หากสต็อกน้ำนมมากเกินไป เก็บนานเกินไป จะมีกลิ่นหืนจนต้องละลายทิ้งค่ะ

คำถามต่อมาก็คือ เราควรปั๊มนมบ่อยแค่ไหนจึงจะเพียงพอ หมอแนะนำให้ปั๊มตามระยะเวลาหลังคลอดดังนี้ค่ะ

ควรปั๊มนมบ่อยแค่ไหน ?

1. ระยะ 1 เดือนแรกหลังคลอด ควรปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมง หรือ อย่างน้อยให้ได้ 7-8 ครั้งต่อวัน โดยปั๊มนานครั้งละ 15-20 นาที เพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนม ในระยะแรกนี้หากคุณแม่มีอาการเหนื่อย เพลีย จนบางรอบไม่สามารถลุกขึ้นมาปั๊มได้ ก็เน้นให้ลูกเข้าเต้า แล้วปั๊มหลังจากลูกเข้าเต้าเสร็จได้เลยนะคะ เพราะสุขภาพของคุณแม่เองก็สำคัญค่ะ

2. ระยะ 2-3 เดือนหลังคลอดเป็นต้นไป ควรปั๊มช่วงกลางวันทุก 5-6 ชั่วโมง และปั๊มช่วงกลางคืนอย่างน้อย 1 ครั้ง เพื่อป้องกันน้ำนมค้างอยู่ในเต้านมเป็นเวลานานจนทำให้ท่อน้ำนมอุดตันค่ะ

คุณแม่สามารถปั๊มนมระหว่างให้นมลูกน้อย โดยให้นม 1 ข้าง และ ปั้ม 1 ข้าง ไปพร้อมๆกันเพื่อประหยัดเวลา หรือ ปั๊มนมระหว่างมื้อนม โดยปั๊มทันทีหลังลูกดูดไปแล้วภายใน 1 ชั่วโมง และปั๊มพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง นาน 15-20 นาทีค่ะ

การที่เราจะมีปริมาณน้ำนมมากขึ้นจนเพียงพอต่อการให้นมลูกน้อยจากเต้า และมีน้ำนมไว้ปั๊มทำสต็อก ต้องมาจากการบำรุงของคุณแม่ร่วมด้วย หมอแนะนำให้คุณแม่ดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อย 5% ของน้ำหนักตัว เพื่อเป็นสารตั้งต้นในการผลิตน้ำนม และ แนะนำให้ทานสุดยอดอาหารบำรุงน้ำนมดังนี้ค่ะ

7 สุดยอดอาหารบำรุงน้ำนม

1. หัวปลี เนื่องจากมีสาร lactagogum กระตุ้นการสร้างฮอร์โมน oxcytocin และ prolactin ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สำคัญในการสร้างน้ำนม
เมนูแนะนำ : แกงเลียงหัวปลี ทอดมันหัวปลี ยำหัวปลี ผัดไทยหัวปลี

2. ขิง เนื่องจากมีวิตามินเอ บี1 บี2 แคลเซียมและคาร์โบไฮเดรต ช่วยขับลม และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้น้ำนมไหลได้ดี
เมนูแนะนำ : ไก่ผัดขิง น้ำขิง มันต้มขิง โจ๊กใส่ขิง ยําขิง ยําปลาทูใส่ขิง

3. พริกไทย เนื่องจากมีรสเผ็ดร้อน ช่วยกระตุ้นให้น้ำนมไหลได้ดี และ ยังช่วยขับลมในร่างกาย
เมนูแนะนำ : แกงเลียง ปลาผัดพริกไทยดำ พริกไทยอ่อนผัดกับหมู หรือ ไก่ หากเป็นพริกไทยผงสามารถเหยาะใส่กับอาหารเช่น ไข่ดาว ไข่เจียว โจ๊ก ได้เลยค่ะ

4. ฟักทอง เนื่องจากมีวิตามินเอ บี ซี เบต้าแคโรทีนและฟอสฟอรัส เพิ่มการผลิตน้ำนม ช่วยผลิตคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
เมนูแนะนำ : ฟักทองนึ่ง ฟักทองผัดไข่ แกงเลียงฟักทอง

5. กุยช่าย เนื่องจากมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เบต้าแคโรทีน คาร์โบไฮเดรตและวิตามินซี ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนม เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง และช่วยขับลมได้เป็นอย่างดี
เมนูแนะนำ : ขนมกุยช่าย ผัดไทยใส่กุ้ยช่าย ดอกกุยช่ายผัดตับ

6. ใบกะเพรา เนื่องจากมีธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัสและเส้นใยอาหารสูง มีฤทธิ์ร้อน ช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือด ทำให้น้ำนมไหลได้มากขึ้น รวมถึงช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อในทารกได้ค่ะ
เมนูแนะนำ : ผัดกะเพรา ต้มจืดใส่ใบกะเพรา ชากะเพรา

7. ใบตำลึง เนื่องจากมีวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1 บี 2 บี 3 แคลเซียม ไฟเบอร์ โปรตีน และธาตุเหล็ก มีส่วนช่วยในกระบวนการบำรุงน้ำนม บำรุงเลือด บำรุงสายตา และ บำรุงระบบประสาท
เมนูแนะนำ : ตำลึงผัดไข่ แกงจืดหมูบะช่อใบตำลึง แกงเลียงตำลึง

อาหารที่หมอแนะนำเหล่านี้ จัดเป็นอาหารที่หาทานได้ง่าย และ มีประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยเป็นอย่างมาก แนะนำทานอาหารเหล่านี้เป็นประจำ สลับๆกันไปต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นน้ำนมและบำรุงน้ำนมนะคะ แต่หากทานอาหารบำรุงน้ำนมแล้วยังเห็นผลไม่ชัดเจน ต้องการยกระดับการบำรุงน้ำนมเพิ่มขึ้นอีกขั้น หมอก็มีตัวช่วยสำหรับคุณแม่เช่นกันค่ะ

หมอขอแนะนำสุดยอดสมุนไพรบำรุงน้ำนม Ponnom ยารับประทานชนิดแคปซูล มีส่วนประกอบของ ดอกบุนนาค เมล็ดพริกไทย ดอกกานพลู ใบกระวาน เปลือกอบเชย และสมุนไพรอื่นๆ มีสรรพคุณดังนี้

• บำรุงน้ำนม ช่วยให้น้ำนมบริสุทธิ์ มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น และ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ลูกน้อย

• ช่วยขับน้ำนม กระตุ้นการไหลของน้ำนม

• ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดคุณแม่ทำงานได้ดีมากขึ้น

• ช่วยให้การฟื้นตัวของคุณแม่ ให้กลับมาสดชื่น กระปรี้กระเปร่า

• ช่วยขับน้ำคาวปลา ขับระดู ขับของเสียที่ตกค้าง

• ช่วยในการบำรุงเลือด รักษาอาการอ่อนเพลีย

สมุนไพรบำรุงน้ำนม Ponnom ถือเป็นสมุนไพรที่ตอบโจทย์สำหรับคุณแม่ที่ต้องการบำรุงน้ำนม เพิ่มน้ำนม กู้น้ำนม และบำรุงหลังคลอดเลยค่ะ จากผลการใช้สมุนไพรบำรุงน้ำนม Ponnom ในคุณแม่หลังคลอด สามารถเห็นผลได้ตั้งแต่กระปุกแรก รับรองได้ว่าทำให้น้ำนมมาเพิ่มขึ้น คับแน่นเต็มเต้า รวมถึงทำให้คุณแม่มีสุขภาพที่ดีขึ้นแน่นอนค่ะ

เพราะลูกน้อยของเราเป็นเด็กเพียงแค่ครั้งเดียว ดื่มนมจากอกเราได้แค่ช่วงเวลาเดียว ดังนั้นเราจึงควรมอบสิ่งที่ดีที่สุด มอบน้ำนมที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกน้อยของเราเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรงและสุขภาพดีนะคะ

หากคุณแม่ท่านใดมีปัญหาเกี่ยวกับน้ำนม ต้องการเพิ่มน้ำนมด้วยวิธีธรรมชาติ ปลอดภัย ไร้สารเคมี สามารถปรึกษาหมอโดยตรงเพื่อรับคำแนะนำและออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพิ่มเติมได้เลยนะคะ ปรึกษาหมอโดยตรงที่ Line ID : @poonrada หรือ โทร. 02-1147027 หมอยินดีให้คำปรึกษาค่ะ

ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027