กระเพาะปัสสาวะอักเสบ มีเลือดออก หายเองได้ไหม?

หมอเชื่อว่าหลาย ๆ ท่าน โดยเฉพาะผู้หญิง มักประสบปัญหาฉี่เป็นเลือด, ปัสสาวะแสบขัด, ปัสสาวะไม่สุด หรือรู้สึกปวดฉี่ตลอดเวลา ทำให้กังวลว่าอาการเหล่านี้จะหายเองได้ไหม หรือจำเป็นต้องพบแพทย์?

บทความนี้หมอจะอธิบายแบบครบถ้วน ตั้งแต่สาเหตุของฉี่เป็นเลือด, อาการที่ต้องระวัง, กระเพาะปัสสาวะอักเสบกี่วันหาย รวมถึงวิธีรักษาฉี่เป็นเลือด

สาเหตุฉี่เป็นเลือด เกิดจากอะไร

ฉี่เป็นเลือด (ปัสสาวะเป็นเลือด) อาจมีสาเหตุได้หลายอย่าง ซึ่งมักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยมีทั้งกรณีไม่รุนแรงและรุนแรง เช่น

การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (กระเพาะปัสสาวะอักเสบ)
นิ่วในทางเดินปัสสาวะ
การออกกำลังกายที่หักโหม
การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด
โรคเกี่ยวกับไต หรือเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ

อาการฉี่เป็นเลือดที่ควรระวัง

อาการฉี่เป็นเลือด หรือ ปัสสาวะมีเลือดปน อาจแสดงออกได้แตกต่างกันไปทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นและไม่หายไปภายใน 2-3 วัน ควรไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงกว่าแค่กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

ในผู้หญิง

ปัสสาวะเป็นสี เช่น ชมพู แดง หรือสีน้ำตาลเข้ม
รู้สึกแสบขัดขณะปัสสาวะ
ปวดปัสสาวะตลอดเวลา แต่ปัสสาวะออกมาน้อย
ตกขาวผิดปกติ หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ร่วมด้วย

ในผู้ชาย

ปัสสาวะขุ่น และมีเลือดปน
ปวดท้องน้อย หรือปวดหลัง
ปัสสาวะไม่สุด

ฉี่เป็นเลือดกี่วันหาย?

ระยะเวลาที่อาการจะหายขึ้นอยู่กับความรุนแรงและสาเหตุ:

กรณีไม่รุนแรง หากเกิดจากการอักเสบที่ไม่ซับซ้อน บางคนอาจหายได้เองใน 2-3 วัน
กรณีต้องใช้ยา หากแพทย์วินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อ อาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะ 3-5 วัน หรือนานกว่านั้นหากอาการรุนแรง
กรณีเรื้อรัง หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ หรือกลับมาเป็นซ้ำ ควรได้รับการตรวจเพิ่มเติม เช่น การอัลตราซาวด์

โดยสรุปแล้ว แม้บางกรณีอาการฉี่เป็นเลือดอาจหายได้เอง แต่เพื่อความปลอดภัยและป้องกันปัญหาสุขภาพในระยะยาว การปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและรักษาอย่างถูกต้อง เป็นสิ่งที่ดีที่สุด

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกี่ยวข้องกับฉี่เป็นเลือดไหม?

ใช่ค่ะ! กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของ ปัสสาวะเป็นเลือดในผู้หญิง เพราะการติดเชื้อแบคทีเรียจะทำให้เกิดการอักเสบ และมีเลือดออกปนมากับปัสสาวะ

กระเพาะปัสสาวะอักเสบกี่วันหาย? ถ้าได้รับยาปฏิชีวนะอาการมักดีขึ้นใน 3–5 วัน
ถ้าไม่รุนแรง บางรายอาจ รักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบด้วยตัวเองได้ เช่น ดื่มน้ำมาก ๆ และเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะ

กระเพาะปัสสาวะอักเสบหายเองไหมได้? กระเพาะปัสสาวะอักเสบกี่วันอาการถึงหายไป?

โดยส่วนใหญ่แล้ว หากเข้ารับการรักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบของทางการแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์จะให้ทานยาปฏิชีวนะ 3-5 วันในผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง แต่กรณีผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงแพทย์อาจจะปรับระยะเวลาทานยาปฏิชีวนะเป็น 7-10 วัน

แล้วหากไม่ได้รับการรักษา กระเพาะปัสสาวะอักเสบหายเองได้ไหม? คำตอบคือ ถ้ากระเพาะปัสสาวะอักเสบในระยะที่ไม่รุนแรงสามารถหายเองได้ภายใน 2-3 วัน และในระยะ 2-3 วันนี้จะต้องไม่มีพฤติกรรมหรือปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ มากระตุ้นให้อาการรุนแรงขึ้น ซึ่งหมอมีวิธีการรักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบด้วยตัวเองมาแชร์ให้ทุกท่าน ด้วย 7 วิธีตัวดูแลตัวเองง่าย ๆ ขณะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบค่ะ

7 วิธีการดูแลตัวเองเมื่อมีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

1. หลีกเลี่ยงการกลั้นปัสสาวะ เนื่องจากการกลั้นปัสสาวะทำให้ปัสสาวะอยู่ในกระเพาะปัสสาวะเป็นเวลานาน และทำให้เชื้อที่อยู่ในปัสสาวะสามารถเจริญเติบได้เร็วขึ้น เป็นสาเหตุทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

2. ดื่มน้ำให้มากขึ้นอย่างน้อยวันละ 3-4 ลิตร การดื่มน้ำจะช่วยขับเชื้อที่อยู่ในร่างกายออกมาทางปัสสาวะ ช่วยลดอาการอักเสบให้เร็วขึ้น

3. ดูแลสุขอนามัยอย่างถูกต้อง ทำความสะอาดอวัยวะเพศให้แห้งทุกครั้งหลังการขับถ่าย และดูแลความสะอาดของชุดชั้นในให้ไม่อับชื้น เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ ในกรณีเป็นผู้หญิงควรทำความสะอาดอวัยวะเพศโดยการเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพื่อป้องกันเชื้อจากทวารหนักเข้ามาสู่ช่องคลอด

4. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงในช่วงที่มีอาการ เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์ทำให้มีความเสี่ยงในการติดเชื้อมากขึ้น และควรปัสสาวะ พร้อมล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศทุกครั้งหลังการมีเพศสัมพันธ์

5. หลีกเลี่ยงการสวมใส่กางเกงที่รัดแน่น ควรสวมใส่กางเกงที่มีเนื้อผ้าระบายอากาศ เนื่องจากการสวมใส่กางเกงที่รัดแน่นจนเกินไปทำให้บริเวณอวัยวะเพศเกิดความอับชื้น เป็นสาเหตุของการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

6. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ เช่น สบู่ น้ำยาสวนล้างช่องคลอด แว๊กซ์กำจัดขน เป็นต้น

7. หลีกเลี่ยงการแช่น้ำ หรือใช้สระว่ายน้ำสาธารณะ เนื่องจากในน้ำมีเชื้อโรคที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้

การรักษาด้วยยาสมุนไพรกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

สมุนไพรไทยทุกชนิดมีสรรพคุณและประโยชน์ในการใช้แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะการใช้เป็นสมุนไพรเดี่ยว หรือสมุนไพรที่เข้าตำรับยา โดยปุณรดายาไทยอยากจะแชร์การใช้ตำรับยาสมุนไพรในการรักษากระเพาะปัสสาวะอักเสบ ในแบบของปุณรดาไทย ด้วยการใช้ชุดยาสมุนไพร UT-Set มีรายละเอียดชุดการรักษา ดังนี้

สมุนไพร B-Boost สมุนไพรสารสกัดพลูคาว

มีสรรพคุณต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อไวรัส ช่วยฆ่าเชื้อที่ก่อให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ และช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายเพื่อป้องกันการกลับมาติดเชื้อซ้ำ

น้ำย่านางสูตร Balance Gold

มีส่วนประกอบของย่านาง ใบเตย ใบบัวบก เชียงดา สมอไทย ดอกสายน้ำผึ้ง และดอกเก๊กฮวย เป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็นที่ช่วยลดการอักเสบ ลดการสะสมของความร้อนทั้งภายในและภายนอก ลดอาการแสบร้อนบริเวณทางเดินปัสสาวะ และช่วยขับเชื้อออกมาทางปัสสาวะ

ปุณรดายาไทยใช้ตำรับยาสมุนไพรทั้ง 2 ตำรับนี้ด้วยกัน เนื่องจากทั้ง สมุนไพร B-Boost และ น้ำย่านางสูตร Balance Gold สามารถรักษาอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้อย่างครอบคลุมและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาค่ะ

กระเพาะปัสสาวะอักเสบสามารถหายเองได้หากไม่ได้อยู่ในระยะที่รุนแรงและรู้จักวิธีการดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง แต่หมอแนะนำว่าหากมีอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปัสสาวะมีเลือดออกเกิดขึ้นมาแล้วควรรีบแพทย์ทันที เพื่อซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพราะโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบสามารถเกิดขึ้นร่วมกับโรคอื่น ๆ ได้ เช่น นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ นิ่วในไต กรวยไตอักเสบ เป็นต้น ดังนั้นการพบแพทย์จะช่วยให้มีการวางแผนการรักษาโรคร่วม และติดตามอาการได้อย่างต่อเนื่องนะคะ

สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบด้วยการใช้ตำรับยาสมุนไพร ปุณรดายาไทยมีผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและทีมแพทย์แผนไทยยินดีให้คำปรึกษา และให้คำแนะนำเฉพาะรายบุคคลตลอดการรักษาเลยค่ะ

ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027