โรคเก๊าท์ (GOUT) คืออะไร มาทำความรู้จักสาเหตุและอาการกัน

วิธีดูแลสุขภาพตามหลักแพทย์แผนไทย

โรคเก๊าท์ (GOUT) คืออะไร มาทำความรู้จักสาเหตุและอาการกัน

เก๊าท์ (GOUT) เป็นโรคลำดับแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงเวลาเกิดอาการปวดตามข้อ อาทิ ข้อนิ้วเท้า ข้อนิ้วมือ และโดยเฉพาะบริเวณข้อเข่า แต่อาการปวดตามข้อนั้นก็สามารถเกิดขึ้นกับโรคอื่น ๆ ได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น โรคกระดูกเสื่อม โรคข้อเสื่อม หรือโรครูมาตอยด์ เป็นต้น

 

ซึ่งในบทความนี้หมอเลยอยากพาท่านผู้อ่านทุกท่านมารู้จักโรคเก๊าท์ให้มากขึ้น ว่าเก๊าท์เกิดจากอะไร? อาการเริ่มต้นของเก๊าท์เป็นอย่างไร?  โรคเก๊าท์รักษาหายไหม? พร้อมยารักษาโรคเก๊าท์จากปุณรดายาไทยกันค่ะ

 

เก๊าท์คืออะไร?


เก๊าท์คือ โรคข้ออักเสบเฉียบพลันที่เกิดจากภาวะการสะสมของกรดยูริกในเลือดสูง (Hyperuricemia) ที่ตกผลึกสะสมอยู่ภายในข้อตามร่างกาย ทำให้เกิดอาการปวดบวมตามข้อนั้น ๆ ซึ่ง 80% ของกรดยูริกเหล่านี้ เป็นของเสียที่เกิดจากการสร้างเซลล์ผิวใหม่มาทดแทนเซลล์ผิวเก่าที่ตายไปแล้ว ส่วนอีก 20% มาจากการรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อสัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยอดผัก เป็นต้น

 

สาเหตุโรคเก๊าท์


ตามที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าโรคเก๊าท์เป็นโรคที่เกิดจากการมีภาวะกรดยูริกสะสมในเลือดสูง โดยสามารถแบ่งโรคเก๊าท์เป็น 2 ประเภท ได้ดังนี้

 

1. โรคเก๊าท์ชนิดปฐมภูมิ เป็นเก๊าท์ชนิดที่พบได้ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ มีสาเหตุหลักมาจาก

• การถ่ายทอดทางพันธุกรรม จากการขาดเอนไซม์บางชนิด หรือเอนไซม์บางชนิดทำงานมากเกินไป จึงทำให้เกิดการสะสมของกรดยูริกที่มากขึ้น

• เพศและฮอร์โมน โรคเก๊าท์จะพบได้มากในเพศชายช่วงอายุ 30-50 ปี และเพศหญิงจะพบมากในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไปหรือช่วงวัยหมดประจำเดือน

 

2. โรคเก๊าท์ชนิดทุติยภูมิ เป็นเก๊าท์ชนิดที่พบได้ส่วนน้อยในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวหรือการใช้ยาบางชนิด ประกอบด้วย

• โรคไต การทำงานที่ผิดปกติของไต ที่มีความสามารถในการขับของเสียหรือการขับกรดยูริกออกจากร่างกายลดลง ทำให้กรดยูริกมีปริมาณสูงขึ้น

• โรคสะเก็ดเงิน เป็นโรคที่มีการสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดกรดยูริกมีปริมาณสูงขึ้น

• โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง เป็นกลุ่มโรคที่มีการใช้ยาที่ส่งผลให้กรดยูริกมีปริมาณสูงขึ้น

• ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาเคมีบำบัด ยาแอสไพริน และยาลดความดันโลหิต เป็นยาที่ส่งผลต่อระดับกรดยูริกในร่างกาย

 

โรคเก๊าท์ยังสามารถเกิดจากปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้กรดยูริกในเลือดมีปริมาณสูงขึ้น ได้แก่

- การรับประทานอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น เนื้อแดง (เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อเป็ด) เครื่องในสัตว์ (ตับ ไต หัวใจ ไส้ กระเพาะ) อาหารทะเล (ปลาซาร์ดีน ปลาไส้ตัน ปลาทู หอยเชลล์ หอยแมลงภู่) และยอดผัก (หน่อไม้, ผักโขม, ดอกกะหล่ำ, ชะอม) เป็นต้น เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีสารพิวรีนในปริมาณสูง ที่สามารถย่อยสลายให้เป็นกรดยูริกและเกิดการสะสมในเลือดได้มากขึ้น

- การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มน้ำผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลฟรุกโตส สามารถเพิ่มการสะสมของกรดยูริกในเลือดได้

 

อาการของเก๊าท์


อาการของเก๊าท์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ตามความรุนแรงของโรค ดังนี้

 

ระยะที่ 1 

ระยะข้ออักเสบเฉียบพลัน (Acute gouty arthitis) เป็นระยะที่เริ่มปวดบวม มีอาการอักเสบบริเวณข้อเท้าหรือข้อนิ้วเท้า หากได้รับประทานยารักษาจะหายสนิทได้ภายใน 1-3 วัน หากไม่ได้รับการรักษาจะหายเองได้ภายใน 4-6 วัน

 

ระยะที่ 2  

ระยะสงบ (Intercritical gout) เป็นระยะที่กลับมาเป็นซ้ำ ความถี่ในการเกิดข้ออักเสบเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีอาการกำเริบบริเวณเดิมจากปีละ 1-2 ครั้ง เพิ่มเป็นเป็นปีละ 3-4 ครั้ง หรือมากกว่านั้น ในผู้ป่วยบางรายอาจมีการอักเสบบริเวณข้ออื่น ๆ ตามร่างกายเพิ่มเติม มีระยะเวลาในการอักเสบและการใช้ระยะเวลาในการรักษาเพิ่มมากขึ้น

 

ระยะที่ 3

ระยะข้ออักเสบเรื้อรัง (Chronic tophaceous gout) เป็นระยะที่เกิดการอักเสบบริเวณข้อหลายข้อ มีอาการปวดบวมตลอดเวลา โดยในระยะนี้จะมีอาการเพิ่มเติมคือมีปุ่มก้อนผลึกออกมาตามข้อต่าง ๆ ที่เกิดการอักเสบ อาทิ ตาตุ่ม ข้อนิ้วเท้า ข้อศอก ข้อเข่า และข้อนิ้วมือ หากไม่ได้รับการรักษาจะทำให้ข้อเกิดการผิดรูป มีอาการปวดมากขึ้น และในระยะนี้อาจทำให้เกิดภาวะโรคไตวายแทรกซ้อน ส่งผลให้อาการของโรคเก๊าท์รุนแรงขึ้นอีกด้วย

 

โดยสรุปแล้วอาการเริ่มต้นของเก๊าท์สามารถสังเกตจากอาการที่เกิดขึ้นในช่วงระยะที่ 1-2 ที่มักจะมีอาการปวด บวม แดง ร้อนบริเวณข้อเท้า ข้อนิ้วเท้า ข้อมือ ข้อนิ้วมือ ข้อศอก และข้อเข่า บริเวณใดบริเวณหนึ่ง แต่โดยส่วนใหญ่แล้วอาการเก๊าท์เริ่มต้นมักเกิดขึ้นบริเวณข้อนิ้วหัวแม่เท้า ถึงแม้อาการเก๊าท์เริ่มต้นสามารถหายเองได้ แต่การประเมินอาการเพิ่มเติมจากแพทย์ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการรักษาด้วยนะคะ

 

โดยหลังจากมีอาการเริ่มต้นของเก๊าท์ หรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเก๊าท์ แน่นอนว่าหลาย ๆ คนจะมีความกังวลเกี่ยวกับโรคเก๊าท์ กังวลเรื่องอาการที่เป็น หรือกังวลในเรื่องของการรักษา ว่าเก๊าท์จะรักษาหายไหม? สำหรับคำถามนี้ หากได้รับการรักษาตามอาการและสาเหตุของโรคเก๊าท์อย่างถูกต้อง โรคเก๊าท์สามารถหายได้อย่างแน่นอน และหมอได้นำแนวทางการรักษาโรคเก๊าท์แบบปุณรดายาไทยมาฝากท่านผู้อ่านทุกท่าน เพื่อคลายความกังวลในส่วนการรักษาอาการเก๊าท์ค่ะ 

 

ยารักษาของปุณรดายาไทย


ปุณรดายาไทยรักษาอาการโรคเก๊าท์ด้วยการใช้ยาสมุนไพรและสารสกัดจากธรรมชาติที่มีมาตรฐานการผลิตระดับสากล มีความปลอดภัย ไม่มีสารสเตียรอยด์ และไร้สารตกค้าง

 

ด้วยการใช้ชุดยาสมุนไพร GT-Set ชุดยาสมุนไพรรักษาโรคเก๊าท์ รักษาอาการข้ออักเสบ ปวดข้อ โดยมีรายละเอียดชุดการรักษา ดังนี้

 

1. สมุนไพร B-Comfort ยารับประทานชนิดแคปซูล มีส่วนประกอบของเถาวัลย์เปรียง เถาเอ็นอ่อน เถาโคคลาน กำลังวัวเถลิง กำลังเสือโคร่ง และอื่น ๆ ที่มีสรรพคุณแก้อาการข้ออักเสบ แก้ปวดข้อ ช่วยบำรุงกล้ามเนื้อ บำรุงเส้นเอ็น กระจายเลือดลมให้สามารถทำงานได้อย่างปกติ และช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

 

2. น้ำย่านาง Balance Gold น้ำสมุนไพรที่มีส่วนประกอบของใบย่านาง ใบเตย ใบบัวบก สมอไทย เชียงดา ดอกสายน้ำผึ้ง และดอกเก๊กฮวย ใช้ผสมน้ำดื่มระหว่างวัน มีสรรพคุณช่วยลดอาการปวด ลดความร้อน  ลดอาการอักเสบทั้งภายในและภายนอก และช่วยขับของเสีย กรดยูริกที่สะสมอยู่ภายในร่างกาย

 

นอกจากการรักษาโรคเก๊าท์ด้วยการใช้ยาสมุนไพรแล้ว ทางปุณรดายาไทยมีทีมแพทย์แผนไทยที่คอยให้คำแนะนำในการปรับพฤติกรรมที่สามารถกระตุ้นให้อาการของโรคเก๊าท์กำเริบ พร้อมทั้งให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพร่างกายโดยภาพรวมให้แบบรายบุคคล เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เฉพาะเจาะจงมากขึ้น

 

โรคเก๊าท์ในระยะอาการเริ่มต้น หรือระยะที่ไม่แสดงอาการสามารถปล่อยไว้แล้วหายเองได้จริง แต่ก็มีโอกาสในการกลับมาเป็นซ้ำ อาจมีความถี่ในการเกิดโรคเพิ่มมากขึ้น หรือมีภาวะโรคแทรกซ้อน ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ด้วยความปรารถนาดีจากหมอทุกท่าน หมออยากให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพใจ และสุขภาพกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตโดยไร้ความกังวลใด ๆ จากโรคที่เป็นอยู่ ดังนั้นการทำความเข้าใจสาเหตุและอาการของโรคจึงเป็นเรื่องสำคัญ และควรรับข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ถูกต้อง เพื่อการนำไปปรับใช้จะได้เกิดประโยชน์สูงสุด การพบแพทย์ตั้งแต่อาการเบื้องต้น และการดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาโรคเก๊าท์ด้วยนะคะ

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและทีมแพทย์แผนไทยของปุณรดายาไทยมีความยินดีที่จะให้คำปรึกษา ตอบทุกคำถามที่ท่านผู้อ่านกังวล และพร้อมดูแลท่านผู้อ่านทุกท่าน โดยสามารถปรึกษาอาการเข้ามาทาง Line ของปุณรดายาไทยได้เลยนะคะ ทางเรามีคุณหมอคอยดูแลให้คำแนะนำ ทุกวัน ตั้งตั้งแต่ 09:00 - 21:00 เลยค่ะ ติดต่อทาง Line id : @poonrada หรือ โทร 02-1147027 นะคะ

 

ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

 

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027


ทีมแพทย์แผนไทยปุณรดา

สุรดา เลิศเกศราธรรม

ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร

"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"

พท.ป.จิราณี กิจศิริพิพัฒน์

แพทย์แผนไทยประยุกต์

"พื้นฐานของสุขภาพดีคือการใส่ใจดูแลธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย ให้สมดุลกันเสมอ"

พท.ปฐมาพรรณ บุญประเสริฐ

แพทย์แผนไทย

" การเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ด้วยวิถีธรรมชาติ เป็นเกราะป้องกันโรค ทางกายและใจ "


ปุณรดา ยาไทย
แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด

ท่านจะได้รับทราบโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครทาง LINE@ พร้อมบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์แบบส่วนตัวฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

ข้อความถึงร้าน


× คุณได้เพิ่มสนค้าลงตะกร้า ดูสินค้าในตะกร้า