กลับมาพบกันอีกครั้งกับบทความเกี่ยวกับสะเก็ดเงินนะคะ จากบทความก่อนที่หมอได้อธิบายสาเหตุ ลักษณะอาการ และตำแหน่งการเกิดโรคสะเก็ดเงินในเบื้องต้นทำให้มีคนไข้หลายคนเข้ามาขอรับคำปรึกษาโดยเฉพาะอาการ “สะเก็ดเงินที่หัว” หรือ “สะเก็ดเงินที่ศีรษะ” วันนี้หมอจะพาท่านผู้อ่านมารู้จักกับโรคสะเก็ดเงินที่ศีรษะให้มากขึ้น ทั้งสาเหตุการเกิดโรค วิธีการสังเกตอาการ และสมุนไพรที่ใช้ในการรักษาสะเก็ดเงินที่ศีรษะกันค่ะ
สะเก็ดเงินที่หัว หรือ สะเก็ดเงินที่ศีรษะ มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Scalp Psoriasis” เป็นหนึ่งในโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดขึ้นบริเวณหนังศีรษะ ทำให้บริเวณหนังศีรษะมีลักษณะเป็นผื่นหนา มีปื้นแดง และตกสะเก็ด สามารถพบผื่นสะเก็ดเงินนี้ได้ตั้งแต่บริเวณหนังศีรษะ หน้าผาก ท้ายทอย ไปจนถึงหลังใบหู
สะเก็ดเงินที่หัวเป็นอาการโรคที่ไม่สามารถติดต่อสู่ผู้อื่น แต่ก่อให้เกิดความรำคาญใจเพราะความไม่สวยงาม และเสียบุคลิกได้ เนื่องจากสะเก็ดเงินที่หัวเกิดขึ้นบริเวณเดียวกับรังแค ทำให้หลายคนเกิดความสับสนว่าคืออาการของอะไรกันแน่ แต่รังแคจะมีความแตกต่างจากสะเก็ดเงิน คือ รังแค จะเป็นเพียงแค่การหลุดลอกของเซลล์ผิวหนังบริเวณหนังศีรษะที่ตายแล้ว ทำให้มีลักษณะเป็นสะเก็ดสีขาวหลุดออกมาเท่านั้น ส่วนสะเก็ดเงินที่หัว เป็นความผิดปกติที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราเองที่มีการแบ่งตัวรวดเร็วเกินไป ทำให้มีลักษณะเป็นผื่นแดง ปื้นหนา มีความมันวาวกว่ารังแค และตกสะเก็ดออกมา
สะเก็ดเงินที่หัวมีสาเหตุการเกิดโรคเช่นเดียวกับสะเก็ดเงินในบริเวณอื่น ๆ แม้ว่าปัจจุบันยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของโรคสะเก็ดเงินได้ชัดเจน แต่มีข้อสันนิษฐานว่าเป็นสภาวะของร่างกายที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน จนทำให้เซลล์ผิวหนังมีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วกว่าปกติหลายเท่า และร่างกายไม่สามารถควบคุมการแบ่งตัวได้ ทำให้ผิวหนังเกิดทับซ้อนกันจนหนาขึ้น แตกเป็นขุย เพราะการผลัดเซลล์ผิวไม่เป็นไปตามปกติ
โดยปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโรค คือ ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเรา และกรรมพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกระตุ้นโรคที่สำคัญ ได้แก่
• ภาวะความเจ็บป่วยภายในร่างกาย เช่น ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำลง การติดเชื้อ HIV และการติดเชื้อบางชนิด เช่น เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส
• สภาวะทางจิตใจของผู้ป่วยมีอิทธิพลต่ออาการของโรค พบว่าผู้ป่วยที่เครียด หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ ผื่นจะกำเริบแดงและคันมากขึ้นได้
• การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนเพศ ทำให้ผื่นมักเริ่มเกิดในช่วงแตกเนื้อหนุ่ม หรือเป็นสาว ซึ่งโรคสะเก็ดเงินนี้ค่อนข้างไวต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจึงเป็นสาเหตุที่เมื่อไหร่ฮอร์โมนในร่างกายเสียสมดุลอาการก็อาจจะกำเริบได้
• การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต ยารักษามาลาเรีย เป็นยาที่มีผลข้างเคียงทำให้อาการสะเก็ดเงินกำเริบมากขึ้น และยาสมุนไพรบางชนิดที่อาจมีส่วนประกอบของสเตียรอยด์ จะไปกดอาการทำให้ผื่นสะเก็ดเงินดีขึ้น แต่เมื่อหยุดยาอาจทำให้ผื่นกำเริบขึ้นมากกว่าเดิม ดังนั้นผู้ป่วยจึงไม่ควรหาซื้อยามาทานเองโดยไม่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
• การได้รับการบาดเจ็บที่ผิวหนัง เช่น การแกะเกา ถูไถ เสียดสีบนผิวหนังที่รุนแรง ผิวไหม้แดด หรือแมลงสัตว์กัดต่อย
• การดื่มเหล้า สูบบุหรี่
• โรคอ้วน หรือมีปัญหาน้ำหนักเกิน เพราะอาจมีแนวโน้มเกิดรอยพับ หรือย่นบริเวณผิวหนังได้มากกว่าคนทั่วไป
• การใช้สารเคมี ทำงานกับสารเคมี ความชื้น หรือต้องเจอฝุ่นควัน สิ่งสกปรก สารที่ก่อให้เกิดการแพ้เป็นประจำ
• การทานอาหารแสลง เช่น ของหมักดอง ข้าวเหนียว ปลาร้า ปลาดุก หน่อไม้ กะปิ เนื้อวัว เนื้อเป็ด เนื้อห่าน เนื้อหมู (สัตว์เนื้อแดงมีส่วนกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย)อาหารทะเล อาหารรสจัด ของหวาน ของมันของทอด
คนไข้หลายคนสอบถามหมอเข้ามาว่าเป็นสะเก็ดเงินที่หัวจะสังเกตได้อย่างไร บอกเลยว่าสังเกตได้ไม่ยากค่ะ ในเบื้องต้นหากอาการไม่รุนแรงอาจมีแค่หนังศีรษะลอกตกสะเก็ดเล็กน้อย แต่หากมีอาการรุนแรงจะสังเกตได้ว่ามีอาการ ดังนี้
1. หนังศีรษะ และบริเวณผิวใกล้เคียง มีผื่นแดงเป็นปื้นหนา ขอบเขตชัดเจน
2. มีการตกสะเก็ด คล้ายรังแค แต่มันวาว
3. รู้สึกคัน
4. หนังศีรษะแห้ง
5. แสบหัว
6. ผมร่วงบางจุด
สะเก็ดเงินที่หัวนอกจากมีอาการที่หนังศีรษะแล้ว ยังสามารถพบได้ที่ หน้าผาก ท้ายทอย ไปจนถึงหลังใบหู สำหรับอาการผมร่วงไม่ได้เกิดจากโรคสะเก็ดเงินโดยตรง แต่มักเกิดจากอาการคัน ทำให้คนไข้ไปเกาหนังศีรษะบริเวณนั้นบ่อย ๆ จึงทำให้ผิวหนังเกิดความเสียหายจึงมีผมร่วงตามมา และหากคนไข้เกาแรงมากเกินไปอาจทำให้มีแผลและเกิดการติดเชื้อตามมาได้
ในทางการแพทย์แผนปัจจุบันการรักษาจะมุ่งเน้นไปที่การบรรเทาอาการ และช่วยลดความรุนแรงของโรคโดยการใช้ยาเฉพาะที่ ซึ่งมักจะมาในรูปแบบของยาครีม โลชั่น น้ำมัน ขี้ผึ้ง หรือยาสระผม ที่ใส่ตัวยาสำคัญต่าง ๆ เช่น
• น้ำมันถ่านหิน
• กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid)
• โคลเบทาซอล โพรพิโอเนต (Clobetasol propionate)
• เรตินอยด์ (Retinoids)
• แอนทราลิน (Anthralin)
โดยปกติคนไข้ต้องใช้ยาเหล่านี้ติดต่อกันนานกว่า 8 สัปดาห์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้รักษาอย่างเคร่งครัด แต่หากการรักษาด้วยยาเฉพาะที่ไม่ได้ผล หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษา อาจใช้วิธีการรักษา ดังต่อไปนี้
• การฉายแสง (Light Therapy)
• การฉีดสเตียรอยด์ (Steroid)
• การรับประทานยาอื่น ๆ เช่น ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) หรือยาเมโธเทรกเซท (Methotrexate)
ทางปุณรดายาไทยมีตำรับยาสมุนไพรที่ช่วยในการรักษาโรคสะเก็ดเงินให้หายสนิท และป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้ โดยทีมแพทย์แผนไทยได้ออกแบบขั้นตอนการรักษาอย่างครอบคลุม โดยแบ่งการรักษาเป็น 3 ขั้นตอนด้วยกัน คือ ล้างพิษ รักษา และฟื้นฟู
ขั้นตอนที่ 1 ล้างพิษ :
ใน 14 วันแรกก่อนเริ่มรักษา แนะนำให้ล้างสารพิษที่ตกค้างในร่างกายขับฟอกของเสียในระบบเลือดและน้ำเหลือง ด้วยยาสมุนไพร ชุด Clean and Clear ขั้นตอนนี้ควรทำในคนไข้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงินเป็นมาเรื้อรัง หรือเคยใช้ยาสเตียรอยด์ ยากดภูมิมาก่อน จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพ และเห็นผลการรักษาได้อย่างชัดเจน
ขั้นตอนที่ 2 รักษา :
การรักษาจะใช้ชุดยาที่ออกแบบมาสำหรับรักษาสะเก็ดเงินโดยเฉพาะ เป็นยาสมุนไพร ชุด P-set ในชุดยาจะประกอบด้วย ยาทาน B-Treat ยาทา B-Liz2 oil ออยอาบน้ำสระผม Derpaderma
ยาทาน B-Treat เป็นตำรับยาสมุนไพรที่มีสรรพคุณรักษาโรคทางน้ำเหลืองและโรคผิวหนังโดยตรง ตัวยาจะเข้าไปรักษา และ ซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง หนังศีรษะ ที่ทำงานผิดปกติ ปรับสมดุลระบบเลือด น้ำเหลือง ซึ่งเป็นระบบภูมิคุ้มกันหลักภายในร่างกายใหม่ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรง และปรับการผลัดเซลล์ผิวเป็นไปตามระยะเวลาที่เหมาะสม ส่งผลให้ผื่นสะเก็ดเงินที่ศีรษะลดลง ปื้นสีแดงมีขนาดเล็กลง
ยาทารักษาสะเก็ดเงิน B-Liz 2 oil มีสรรพคุณ ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ไม่ให้เข้าสู่ผื่นสะเก็ดเงินที่ศีรษะ และบริเวณใกล้เคียง ช่วยสมานแผลทำให้หายเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการแดง แสบร้อนและช่วยลดการลอก เป็นขุยของหนังศีรษะ
ออยล์อาบน้ำและสระผมสะเก็ดเงิน DerpaDerma เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย แห้ง คัน สามารถล้างทำความสะอาดตัวและใช้สระผมได้ในตัวเดียว มีสรรพคุณ ลดอาการคัน อักเสบ แดง บวม ที่ผื่นสะเก็ดเงิน ช่วยฟื้นฟู ผิวที่แห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้น กร้าน พร้อมบำรุงผิว ให้กลับมาแข็งแรง ชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ขั้นตอนที่ 3 ฟื้นฟู :
หลังจากที่อาการดีขึ้น จนใกล้หายสนิทแล้ว ขั้นตอนต่อมา คือ การป้องกันการเกิดสะเก็ดเงินซ้ำ บำรุงระบบน้ำเหลืองให้แข็งแรง เพื่อระบบภูมิคุ้มกันจะได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำใช้เป็นยารับประทานสมุนไพร ชุด Health Refreshment Set (B-Boost set) เป็นชุดยาสมุนไพรช่วยฟื้นฟู และ ป้องกันการเกิดซ้ำ สำหรับผู้ที่เป็นสะเก็ดเงิน อาการที่เกิดจากระบบน้ำเหลือง และ ระบบภูมิคุ้มกันทำงานไม่ปกติ
สะเก็ดเงินที่หัว หรือ สะเก็ดเงินที่ศีรษะ เป็นอาการเริ่มแรกที่สามารถบ่งชี้ว่าเป็นสะเก็ดเงิน เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เราดูแลสุขภาพมากขึ้น หมอหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ท่านผู้อ่านมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น ทั้งวิธีการสังเกตอาการ สาเหตุการเกิดโรค และวิธีการรักษาอย่างเหมาะสม หากท่านผู้อ่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือกำลังมีอาการสะเก็ดเงินที่ศีรษะอยู่หากต้องการปรึกษากับทีมแพทย์แผนไทยผู้เชี่ยวชาญการรักษาโรคสะเก็ดเงินของทางปุณรดายาไทย สามารถปรึกษาโดยตรงได้เลยนะคะทีมหมอยินดีให้คำปรึกษาค่ะ หากบทความนี้น่าสนใจและเป็นประโยชน์ สามารถแชร์ให้คนที่คุณรักเพื่อส่งมอบความห่วงใยได้เลยนะคะ
ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทยประยุกต์
"พื้นฐานของสุขภาพดีคือการใส่ใจดูแลธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย ให้สมดุลกันเสมอ"
แพทย์แผนไทย
" การเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ด้วยวิถีธรรมชาติ เป็นเกราะป้องกันโรค ทางกายและใจ "