สะเก็ดเงินที่เล็บรักษาได้ไหม? ควรดูแลอย่างไร?

วิธีดูแลสุขภาพตามหลักแพทย์แผนไทย

สะเก็ดเงินที่เล็บรักษาได้ไหม? ควรดูแลอย่างไร?

เล็บ ถือเป็นบริเวณหนึ่งที่สามารถเกิดสะเก็ดเงินได้ง่าย เมื่อเป็นแล้วรักษาค่อนข้างยากและใช้เวลานาน การรักษาต้องใช้ยาควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอร่วมด้วย แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปค่ะ วันนี้หมอจะมาอธิบายถึงสาเหตุ วิธีการดูแลตัวเอง และ ยาที่ใช้รักษาสะเก็ดเงินที่เล็บ เพื่อเป็นแนวทางในการรักษาให้กับทุกๆท่านนะคะ

 

สาเหตุของสะเก็ดเงินที่เล็บ


โรคสะเก็ดเงินที่เล็บ (nail psoriasis) เป็นความผิดปกติของเล็บที่พบในโรคสะเก็ดเงิน อาจมีอาการเป็นเฉพาะที่เล็บหรือพบร่วมกับอาการอื่นของโรคสะเก็ดเงิน เช่น รอยโรคสะเก็ดเงินที่ผิวหนัง ขุยที่หนังศีรษะ หรืออาจมีข้ออักเสบร่วมด้วยได้

สาเหตุของสะเก็ดเงินที่เล็บเกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังที่ผิดปกติบริเวณใต้โคนเล็บ และบริเวณใต้แผ่นเล็บ ทำให้เกิดการอักเสบและมีรอยโรคเกิดขึ้นที่แผ่นเล็บค่ะ

 

7 วิธีการดูแลตัวเองเพื่อบรรเทาอาการสะเก็ดเงินที่เล็บให้ดีขึ้น


เมื่อมีอาการสะเก็ดเงินที่เล็บแล้ว สามารถดูแลสุขภาพเบื้องต้นด้วยตนเองตามนี้ได้เลยนะคะ

1. ควรตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียที่เล็บ

 

2. ควรหลีกเลี่ยงการทำเล็บหากมีการติดเชื้อราที่เล็บ หรือการต่อเล็บปลอมเพื่อปกปิดการติดเชื้อ เพราะอาจยิ่งทำให้อาการรุนแรงขึ้น หากมีแผลที่เล็บ หรือ มีอาการแพ้สารเคมีที่ใช้ในการทำเล็บ เช่น มีผื่นแดง แสบคันบริเวณนิ้วมือมากขึ้น

 

3. ควรหลีกเลี่ยงการชนหรือการกระแทกซ้ำ ๆ ที่เล็บ เนื่องจากอาจกระตุ้นให้ตัวโรคเป็นมากขึ้น

 

4. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องสัมผัสน้ำ น้ำมันเป็นเวลานานๆจะดีที่สุด แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้ใส่ถุงมือ แต่ควรระวังในคนแพ้ถุงมือยาง ควรไปใช้ถุงมือสำหรับคนแพ้ง่าย เช่น ไนไตร ไวนิล เมื่อต้องใช้มือทำงานบ้านหรือทำงานที่มีการสัมผัสน้ำ ความชื้น คราบน้ำมัน เพื่อถนอมผิวบริเวณมือ เล็บ ป้องกันการบาดเจ็บที่มือ

 

5, หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมี และ ตัวทำละลายสารเคมีโดยตรง เพื่อป้องกันการลำลายเซลล์ผิวบริเวณมือและเล็บ

6. ควรทาครีมที่มีส่วนประกอบของ

• สารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติผิว (NMFs) เพื่อช่วยเพิ่มการยึดเกาะโมเลกุลของน้ำไว้ภายในเซลล์ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น

• สารเซราไมด์ เพื่อช่วยซ่อมแซม และเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ทำให้เกราะป้องกันผิวของเราแข็งแรงขึ้น

• สารไฮยาลูรอนิค แอซิด เพื่อช่วยดูแลให้ผิวดูสุขภาพดี อิ่มน้ำ และนุ่มชุ่มชื้น 

• สารกลูโค-กลีเซอรอล เพื่อช่วยเพิ่มการส่งผ่านน้ำจากเซลล์สู่เซลล์ในชั้นผิวที่ลึกลงไป ป้องกันผิวแห้ง เมื่อผิวแห้งจะเกิดสะเก็ดเงินได้ง่าย

 

7. แช่มือ-เท้าด้วยสมุนไพรที่มีส่วนประกอบดังนี้

ข่า เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านเชื้อรา ต้านแบคทีเรีย รักษาโรคผิวหนัง และ ลดการอักเสบจากสะเก็ดเงินที่เล็บ

มะกรูด เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ลดการอักเสบ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและเล็บ

มังคุด เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ ต้านแบคทีเรีย ลดอาการแพ้ และลดการระคายเคืองที่ผิว

ใบบัวบก เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา สมานแผล และลดการอักเสบบริเวณผิวและเล็บ

 

ยารักษาสะเก็ดเงินที่เล็บ


สะเก็ดเงินที่เล็บมีวิธีการรักษาหลายวิธี ทั้งการรักษาทางแผนปัจจุบัน และ การใช้สมุนไพร ดังนี้ค่ะ

 

ยาแผนปัจจุบันรักษาสะเก็ดเงินที่เล็บ

1, ยาทาแผนปัจจุบัน ซึ่งมีอยู่สองกลุ่ม คือ 

ยากลุ่มสเตียรอยด์

• ข้อดี : ค่อนข้างปลอดภัย เห็นผลไว

• ข้อเสีย : ผิวหนังบริเวณที่ทายาบางลง อาจเกิดรอยแผลตรงเป็นบริเวณที่ทายา ยากดภูมิคุ้มกันได้ ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียและรา นอกจากนี้ยาอาจบดบังอาการติดเชื้อจนทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงในภายหลังได้

Calciprotriene

• ข้อดี : ค่อนข้างปลอดภัยและไม่มีปัญหาหากไม่ทาเกินปริมาณ 100 กรัมต่อสัปดาห์ (3 หลอด)

• ข้อเสีย : ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล และในผู้ป่วยบางคนในช่วงแรกของการทาผื่นจะหลุดลอกออกมามากขึ้น ซึ่งอาจจะสงสัยว่าเกิดอาการแพ้หรือไม่เพราะผื่นกำเริบมากขึ้น แต่เมื่อผ่านระยะเวลาไปสักช่วงหนึ่ง ผื่นสะเก็ดเงินจึงจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นในเวลาต่อมา

ยาฉีดสเตียรอยด์ โดยฉีดเข้าที่เล็บ 

• ข้อดี : เป็นวิธีที่ได้ผลดี เห็นผลไว

• ข้อเสีย : เจ็บปวดมากขณะฉีดยา

ยารับประทาน มักใช้ในรายที่เป็นมาก หรือมีอาการทางระบบอื่นๆร่วมด้วย ยาที่นำมาใช้ ได้แก่ acitretin, methotrexate, cyclosporine หรือ ยากลุ่ม biologics

• ข้อดี : มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาอาการ

• ข้อเสีย : มักมีผลข้างเคียงกับระบบอื่น ๆ จึงจำเป็นต้องมาพบแพทย์ เพื่อปรับยา และเฝ้าระวังอาการข้างเคียงอย่างสม่ำเสมอ

เลเซอร์ ชนิด pulsed dye laser 

• ข้อดี : จากการศึกษาพบว่าได้ผลค่อนข้างดี โดยต้องทำเดือนละครั้งติดต่อกัน 3-5 ครั้ง

• ข้อเสีย : ค่อนข้างเจ็บปวด และ มีค่าใช้จ่ายสูง

 

2. ยาสมุนไพรรักษาสะเก็ดเงินที่เล็บ

 

หลักการรักษาทางการแพทย์แผนไทยจะใช้ยาสมุนไพรแบบรับประทานเพื่อปรับระบบน้ำเหลือง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และ ใช้ยาภายนอกเพื่อบรรเทาอาการภายนอก ส่งเสริมให้อาการโดยรวมหายไวขึ้นค่ะ ยาที่ปุณรดายาไทยแนะนำให้ใช้สำหรับผู้ที่เป็นสะเก็ดเงินที่เล็บมีดังนี้ค่ะ

 

1. ยารับประทานรักษาสะเก็ดเงิน B-treat สรรพคุณ ช่วยฟอกโลหิตและน้ำเหลืองที่เสีย ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ตามผิวหนังและเล็บ

2. ยาทาสะเก็ดเงิน B-Liz2 (หรือ B-skin2) สรรพคุณ ช่วยลดอาการเจ็บ อักเสบ ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบริเวณผิวหนังและเล็บ ช่วยให้เล็บแข็งแรง เงางาม พร้อมบำรุงให้ผิวบริเวณเล็บให้นุ่ม ชุ่มชื้นขึ้น

 

แต่ทั้งนี้ ในส่วนของการรักษาจะขึ้นอยู่กับอาการ ความรุนแรง ความเรื้อรังที่เป็นร่วมด้วย หมอจะมีการซักถามอาการ เพื่อประเมินการใช้ยาให้ตามความเหมาะสมกับอาการของแต่ละบุคคลนะคะ หากท่านใดมีปัญหา​เกี่ยวกับสะเก็ดเงินที่เล็บ ต้องการรักษาสะเก็ดเงินที่เล็บด้วยวิธีธรรมชาติ ปลอดภัย ไร้สารเคมี สามารถ​ปรึกษา​หมอโดย​ตรงเพื่อรับคำแนะนำและออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล​เพิ่มเติมได้เล​ยนะคะ​

 

​ปรึกษาอาการกับหมอ ได้โดยตรงที่ Line ID : @poonrada ได้เลยนะคะ หมอยินดีให้คำปรึกษาค่ะ

 

ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

 

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027

 


ทีมแพทย์แผนไทยปุณรดา

สุรดา เลิศเกศราธรรม

ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร

"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"

พท.ป.จิราณี กิจศิริพิพัฒน์

แพทย์แผนไทยประยุกต์

"พื้นฐานของสุขภาพดีคือการใส่ใจดูแลธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย ให้สมดุลกันเสมอ"

พท.ปฐมาพรรณ บุญประเสริฐ

แพทย์แผนไทย

" การเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ด้วยวิถีธรรมชาติ เป็นเกราะป้องกันโรค ทางกายและใจ "


ปุณรดา ยาไทย
แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด

ท่านจะได้รับทราบโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครทาง LINE@ พร้อมบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์แบบส่วนตัวฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

ข้อความถึงร้าน


× คุณได้เพิ่มสนค้าลงตะกร้า ดูสินค้าในตะกร้า