เข้าพรรษา บอกลาไขมันพอกตับ

วิธีดูแลสุขภาพตามหลักแพทย์แผนไทย

เข้าพรรษา บอกลาไขมันพอกตับ

ในช่วงเข้าพรรษาปีนี้ หมอมีความตั้งใจอยากมาบอกเล่าวิธีการรับมือ และวิธีดูแลสุขภาพสำหรับคนที่มีไขมันพอกตับ และตับอักเสบระยะเริ่มต้น รวมถึงผู้ที่สนใจการดูแลตับให้แข็งแรง เพื่อให้ตับแข็งแรง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนะคะ ใครที่ตั้งใจงดเหล้าเข้าพรรษา บอกเลยว่านี่คือโอกาสที่ดีมากๆในการฟื้นฟูตับของคุณค่ะ

 

ก่อนเข้าเรื่องวิธีการฟื้นฟู ดูแลตับให้กลับมาแข็งแรง หมออยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกับตับให้มากขึ้นก่อน ว่าตับมีความสำคัญอย่างไร ทำหน้าที่อะไร ทำไมเราต้องดูแล ถ้าไม่ดูแลจะส่งผลต่อสุขภาพและร่างกายเราอย่างไรบ้างกันนะคะ

 

ตับทำหน้าที่อะไร สำคัญขนาดไหน?


ตับเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย มีน้ำหนักประมาณ 1.5 กิโลกรัม อยู่ใต้ซี่โครงในช่องท้องด้านบน เยื้องไปทางขวาและเกาะอยู่กับกะบังลม มีเนื้อเยื่อรัดไว้หลายชั้น

 

หน้าที่หลักของตับจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการย่อยอาหาร โดยจะส่งน้ำดีให้ลำไส้เล็กส่วนต้นเพื่อย่อยอาหารที่ถูกย่อยมาแล้วบางส่วน(จากกระเพาะอาหาร) เพื่อนำมาสร้างเป็นสารอาหารที่จำเป็นและเก็บสะสมไว้ใช้ในยามจำเป็น และตับยังมีหน้าขับหรือทำลาย มีสารพิษ สารเคมี ของเสียให้ออกไปจากเลือด นอกจากนี้ตับยังทำอีกหลายหน้าที่สำคัญทั้งการเปลี่ยน ผลิต และสะสมพลังงาน จึงถือได้ว่าตับคือ “หน่วยตรวจจับสารพิษ สิ่งแปลกปลอมที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย”

 

สรุปให้เข้าใจง่ายขึ้นคือ เปลี่ยนอาหารที่เรากินให้กลายเป็นสารอาหารที่จำเป็น>สะสมพลังงานไว้ใช้ >ทำลายสารพิษ >สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ดังนั้นถ้าตับทำงานไม่ปกติ ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราทั้งในระยะสั้นและระยะยาวหากปล่อยไว้ก็มีผลอันตรายต่อชีวิตได้นะคะ ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่จะส่งผลให้ตับของเราอ่อนแอลง มักเกิดจากวิถีการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายน้อยลง การทานอาหารฟาสฟู้ด การทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องใช้ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ พฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกินที่บริเวณตับ จนเกิดเป็น “ภาวะไขมันพอกตับ”

 

อาการเมื่อเกิดภาวะไขมันพอกตับ


อาการอาจจะไม่แสดงตั้งแต่แรกที่มีไขมันสะสม แต่ถ้ามีไขมันสะสมในเซลล์ตับมากขึ้นเรื่อยๆ จะมีอาการ

• เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง

• รู้สึกไม่สบายท้อง

• น้ำหนักลดลงผิดปกติ ความอยากอาหารลดลง

• คลื่นไส้

• มึนงง สมาธิสั้น ความสามารถในการตัดสินใจลดลง

 

แล้วถ้าปล่อยให้ไขมันพอกตับ จะอันตรายหรือมีผลกระทบอะไรไหม?


เป็นคำถามที่หลายคนสอบถามหมอเข้ามาค่ะ เพราะร่างกายก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร อาการอะไรก็ไม่มี ก็ดูไม่น่าจะอันตรายใช่ไหมคะ หมออยากบอกว่าภาวะไขมันพอกตับไม่ควรปล่อยไว้ให้เรื้อรัง ควรรีบรักษา ลดไขมันสะสม เพราะภาวะไขมันพอกตับ หากปล่อยไว้สามารถนำไปสู่ภาวะตับโต ถ้ามีไขมันแทรกในเซลล์ตับมากเกินไป จะทำให้เกิดพิษในเซลล์ตับ ทำให้ตับอักเสบ เกิดพังผืด และถ้าเรื้อรังมากๆก็สามารถเกิดเป็นโรคตับแข็ง และมะเร็งตับได้

 

สาเหตุที่ทำให้เกิดไขมันพอกตับ


หลักๆแบ่งออกเป็น 2 สาเหตุหลัก คือ

 

1.เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ (Alcoholic Fatty Liver disease)
การดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลให้ตับทำงานไม่เต็มที่ ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง เกิดการสะสมของไขมันที่ตับ ซึ่งความรุนแรงก็ขึ้นอยู่กับประเภท ปริมาณ และระยะเวลาที่ดื่มแอลกอฮอล์

 

2.ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ (Non-Alcoholic Fatty Liver disease)
กลุ่มนี้เกิดจากความผิดปกติของระบบเผาพลาญ กระบวนการการย่อยไขมันและการนำไปใช้ไม่สัมพันธ์กัน จนทำให้เกิดไขมันจำนวนมากสะสมอยู่ที่ตับ เป็นผลมาจากโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ไวรัสตับอักเสบบี ซี และการติดเชื้อHIV

 

แต่ถ้าเราจะลงในรายละเอียดก็ยังมีสาเหตุอื่นๆอีก เช่น 

• เกิดจากพันธุกรรม

• การอดอาหาร หรือการลดน้ำหนัก มากกว่า 1 กิโลกรัม ใน 1สัปดาห์ และภาวะขาดสารอาหาร

• ความผิดปกติของลำไส้ในการดูดซึมสารอาหาร

• การทานอาหารกลุ่มที่เพิ่มการสะสมของไขมันในเซลล์ตับ เช่น เบเกอร์รี่ เนย ชีสต์ เนยเทียม ไอศครีม ขนมไทยที่มีความมันสูงๆ เช่น ขนมกระทิที่ผ่านการต้ม(บวชต่างๆ) ของเชื่อม ขนมตระกูลทอง(ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน) และ อาหารที่มีไขมันจากสัตว์ เนื้อสัตว์ติดมัน ติดหนัง 

• ผลข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น ยารักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ(ยาอะมิโอดาโรน), ยารักษามะเร็งเต้านม(ยาทาม็อกซิเฟน), ยาฮอร์โมนสเตียรอยด์(ยากลูโคคอร์ติซอล), ยาปฏิชีวนะที่รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไป(ยาเตตราไซคลีน), ฮอร์โมนทดแทน(ยาโอเอสโตรเจน), ยากลุ่มออกฤทธิ์แทรกแซงการเจริญเติบโตของเซลล์ โดยเฉพาะเซลล์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น เซลล์มะเร็งเต้านม โรคสะเก็ดเงินระดับรุนแรง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์(ยาเมโธเทรกเซท), ยาฆ่าแมลง ยาเบื่อหนู(แทลเลียม)

• อายุที่มากขึ้นส่งผลต่อระบบเผาพลาญ ทำให้การย่อยไขมันไม่ดีเท่าตอนอายุยังน้อย

• ภาวะขาดฮอร์โมนไทรอยด์(Hypothyroidism) หรือไทรอยด์ต่ำ

• ภาวะขาดฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง(Hypothyroidism)

 

รู้สาเหตุแบบนี้แล้ว หมออยากชวนท่านผู้อ่านเช็คสาเหตุการเกิดไขมันพอกตับของตัวเอง หรือคนในครอบครัวกันดูก่อนนะคะ ว่าภาวะไขมันพอกตับที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากสาเหตุไหน เราจะได้ไปแก้ไข ปรับลดกันอย่างตรงจุด เบื้องต้นในบทความนี้หมอขอเจาะประเด็นหลักไปที่สาเหตุการดื่มแอลกอฮอล์เพราะเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย และถ้าจะฟื้นฟูการทำงานของตับก็อาจจะต้องอาศัยตัวช่วย รวมถึงการปรับพฤติกรรมและบำรุงตับให้ถูกวิธีโดยการใช้อาหารเป็นยาเพื่อความปลอดภัยและเป็นการฟื้นฟูตับอย่างยั่งยืนค่ะ 

 

การฟื้นฟูตับจากภาวะไขมันพอกตับ ในการฟื้นฟูตับเพื่อรักษาภาวะไขมันพอกตับ แนวทางของปุณรดายาไทยจะเริ่มจากการ

 

ขั้นตอนที่ 1 ล้างสารพิษที่สะสมในตับและระบบเลือดก่อน เพราะเราเชื่อว่าถ้าตับสะอาด ทำงานได้ปกติ ระบบการย่อย การเผาพลาญก็จะปกติแต่ถ้าระบบในร่างกายแปรปรวน เสียสมดุล ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่ามีของเสียสะสมในร่างกายโดยเฉพาะที่ตับ ขั้นตอนการล้างสารพิษก็ทำได้ง่ายๆ ไม่ยากเลยค่ะ เราจะใช้ตำรับยาชุด CLEAN & CLEAR

 

สรรพคุณของสมุนไพร CLEAN (คลีน) เป็นสมุนไพรที่มีส่วนผสมของรางจืด สามารถล้างสารพิษตกค้างในร่างกายได้ ไม่ว่าจะเป็นพิษจากแอลกอฮอล์ สารเคมีต่างๆ โลหะหนัก สารสเตียรอยด์ที่ตกค้างสะสมในกระแสเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายได้รับผลข้างเคียงเมื่อหยุดใช้สารพิษเหล่านี้ และสมุนไพร CLEAR (เคลียร์) จะทำหน้าที่ขับของเสียที่สมุนไพร CLEAN (คลีน) เก็บกวาดได้จากในร่างกายให้ขับออกมา โดยเน้นไปที่ทางอุจจาระ ช่วยขับไขมัน อุจจาระเก่าที่สะสมในผนังลำไส้(เถาดานพรรดึก) แต่สมุนไพร CLEAR จะไม่มีฤทธิ์เป็นยาถ่าย หรือยาระบายที่ทำให้ถ่ายท้อง ท้องร่วง เพราะถ้าเป็นยาถ่าย ยาระบายที่เน้นให้ถ่ายอย่างเดียวก็อาจจะส่งผลเสียต่อลำไส้ ในระยะยาวก็จะทำให้ลำไส้ทำงานเองไม่ได้(ลำไส้ขี้เกียจ) หรือ อาจจะเกิดบาดแผลที่ทวารได้หากถ่ายเยอะเกินไป การทำงานของตำรับสมุนไพร CLEAR จึงถ่ายแบบพอเหมาะ รู้ปิดรู้เปิดเองได้ เวลาเดินทางไปข้างนอกหรือต่างจังหวัดก็ไม่ต้องกังวลเรื่องห้องน้ำค่ะ

 

ดังนั้นตำรับยาที่ช่วยขับระบายของเสียออกจากร่างกายจึงต้องปลอดภัย ออกแบบมาสำหรับขับของเสียที่สะสมโดยตรง เครื่องยาออกแบบมาอย่างพอเหมาะพอดีกับธาตุในร่างกาย ไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียง จึงเป็นที่มาของตำรับยาชุดนี้ค่ะ การล้างสารพิษเราจะทานต่อเนื่องเพียง 15 วัน โดยในเคสที่ไม่ได้มีสารพิษ ไขมันสะสมมาก จะแนะนำให้ล้างสารพิษทุกๆ 4 เดือน แต่สำหรับคนที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ รับสารพิษ สารเคมีจากการทำงาน หรือ ใช้ชีวิต แนะนำให้ปรึกษาทีมแพทย์แผนไทยของปุณรดาเข้ามาเพื่อวางแผนการล้างสารพิษแบบเฉพาะบุคคลนะคะ

 

ขั้นตอนที่ 2 หลังจากที่เราล้างสารพิษที่ตกค้างในตับเสร็จแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการฟื้นฟูตับ เพื่อช่วยลดการอักเสบในตับ ทำให้ตับทำงานดีขึ้น ช่วยให้ไขมันที่สะสมในเซลล์ตับนำมาเผาพลาญได้ดีขึ้น ในขั้นตอนนี้เราจะทำ 3 อย่างควบคู่กัน

 

2.1 ทานยาสมุนไพรช่วยในการฟื้นฟู โดยรสยาที่ใช้เราจะเน้นไปที่รสขม เพราะความขมจะช่วยในการฟื้นฟูตับ ขับของเสีย เพิ่มการไหลเวียนของเลือด ตำรับที่ว่านี้มาในรูปแบบอาหารเสริมที่ชื่อว่า S-GAR+ ส่วนประกอบทุกตัวมาจากธรรมชาติ ปลอดภัยต่อตับ ส่วนประกอบหลักได้แก่

 

• เจียวกู่หลาน หรือ ปัญจขันธ์ เป็นสมุนไพรที่ออกฤทธิ์ที่ตับโดยตรงและส่งผลไปยังระบบไหลเวียนเลือดทั่วร่างกาย ลดคอเรลเตอรอล กำจัดไขมันและน้ำตาลในเส้นเลือด รักษาเส้นเลือดอักเสบที่เกิดจากไขมันและน้ำตาลอันเป็นสาเหตุของความเหนื่อยล้า อาการไมเกรน 

• เห็ดหลินจือ อีกหนึ่งสุดยอดสมุนไพรรักษาตับ รักษาเซลล์ตับที่เสื่อม เมื่อตับทำงานได้ดี สารพิษตกค้างในร่างกายก็ลดลง

• อาร์ทิโชก สารสกัด Artichoke สมุนไพรลดไขมันในเส้นเลือด ลดความดัน ลดน้ำตาล เพิ่มปริมาณน้ำดีในตับ ซึ่งทำให้ลำไส้ย่อยไขมันได้ดี ไขมันไม่ตกค้างในร่างกาย

• แดนดิไลอ้อน ดอกและรากของ Dandilion เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยจับสิ่งแปลกปลอมในเส้นเลือด เช่น น้ำตาลและไขมัน ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และยังเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงอีกด้วยค่ะ 

 

2.2 ปรับพฤติกรรมในการทานอาหารใหม่ และ การออกกำกำลังกาย เน้นการทานอาหารปรุงสุก สดใหม่ ทานผักที่ปรุงสุกให้หลากหลายชนิด เน้น ผักที่มีสีเขียว เพราะช่วยลดการอักเสบ ต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักคะน้า มะระจีน มะระขี้นก ใบขี้เหล็ก งดการทานอาหารที่มีไขมันสูงทุกชนิด ควบคู่กับการเดินออกกำลังกาย วันละ 45-60นาที เดิน ทำกิจกรรมเช่น รดน้ำต้นไม้ ฟังเพลง เดินซื้อของ เดินขึ้น-ลงบันได(กรณีที่ต้องการขึ้นไม่เกิน 3 ชั้น) แทนการใช้ลิฟต์ 

 

2.3 งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพื่อให้ตับได้พักจากการรับสารพิษ โดยเฉพาะพิษจากแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตับอักเสบ เกิดไขมันแทรกในเซลล์ตับ ถ้าตับได้พักจากแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 เดือน หมอเชื่อเลยว่าตับต้องสุขภาพดีขึ้นแน่นอน และเมื่อทำควบคู่กับการล้างสารพิษ ฟื้นฟูตับ ปรับพฤติกรรมใหม่ การมีตับที่แข็งแรง ไม่มีไขมันแทรกในเซลล์ตับก็ไม่ใช้เรื่องยากอีกต่อไป เพียงเท่านี้เราก็สามารถบอกลาไขมันพอกตับได้เลยค่ะ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะท่านผู้อ่าน วิธีการฟื้นฟูและรักษาภาวะไขมันพอกตับที่หมอนำมาแบ่งปัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์และเป็นตัวช่วยที่ทำให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง มีความหวังใหม่ในการฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวมนะคะ หากใครได้อ่านบทความนี้แล้วมีความตั้งใจอยากฟื้นฟูตับให้กลับมาแข็งแรง เพราะตอนนี้ค่าไขมัน ค่าตับของคุณเริ่มส่งสัญญาณผิดปกติ อย่ารอช้านะคะรีบรักษาตั้งแต่เนิ่นๆสามารถหายเป็นปกติได้ ทีมแพทย์แผนไทยของปุณรดายาไทยพร้อมดูแลให้คำปรึกษา พร้อมออกแบบวิธีดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลให้คุณเพื่อให้การฟื้นฟูตับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อไหร่ที่มีปัญหาสุขภาพแล้วไม่รู้จะปรึกษาใครดี ติดต่อมาหาเรานะคะ 

 

ปรึกษาแพทย์แผนไทยผู้เชี่ยวชาญ สามารถแอดไลน์ Line ID : @Poonrada ได้เลยนะคะ ทีมหมอยินดีให้คำปรึกษาค่ะ

 

ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

 

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027

 


ทีมแพทย์แผนไทยปุณรดา

สุรดา เลิศเกศราธรรม

ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร

"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"

พท.ป.จิราณี กิจศิริพิพัฒน์

แพทย์แผนไทยประยุกต์

"พื้นฐานของสุขภาพดีคือการใส่ใจดูแลธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย ให้สมดุลกันเสมอ"

พท.ปฐมาพรรณ บุญประเสริฐ

แพทย์แผนไทย

" การเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ด้วยวิถีธรรมชาติ เป็นเกราะป้องกันโรค ทางกายและใจ "


ปุณรดา ยาไทย
แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด

ท่านจะได้รับทราบโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครทาง LINE@ พร้อมบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์แบบส่วนตัวฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

ข้อความถึงร้าน


× คุณได้เพิ่มสนค้าลงตะกร้า ดูสินค้าในตะกร้า