7 ท่าบริหาร รักษาหูอื้อหูดับ

วิธีดูแลสุขภาพตามหลักแพทย์แผนไทย

7 ท่าบริหาร รักษาหูอื้อหูดับ

หูอื้อ ได้ยินเสียงไม่ชัด มีดังในหูคล้ายเสียงจั๊กจั่น เสียงจิ้งหรีด หรือเสียงหวี่ในหู ใครมีอาการเหล่านี้บ้างคะ หากมีอาการเหล่านี้มีโอกาสที่จะเป็นโรคหูอื้อ หูดับได้ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

 

• การอุดกั้นสัญญาณเสียงในส่วนของหูชั้นนอก และหูชั้นกลาง เช่น ขี้หูอุดตัน แก้วหูทะลุจากอุบัติเหตุ หูชั้นนอกอักเสบจากการปั่นหู น้ำเข้าหูหลังสระผมหรือว่ายน้ำ เนื้องอกของหูชั้นนอก หูชั้นกลางอักเสบจากการติดเชื้อ โรคหินปูนในหูชั้นกลาง

 

• ความผิดปกติของอวัยวะรับเสียงในหูชั้นใน หรือเส้นประสาทสมอง โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากความเสื่อมของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 8 ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการได้ยิน เช่น ประสาทหูเสื่อมจากอายุ เส้นประสาทหูเสื่อมเฉียบพลัน การได้รับเสียงดังในระยะเวลานาน

 

• สาเหตุอื่นๆ เช่น กลุ่มอาการ Myofascial pain syndrome ของกล้ามเนื้อบ่าคอ โรคภูมิแพ้  โรคความดันโลหิตสูง

 

ในทางการแพทย์แผนไทยโรคหูอื้อ หูดับ เป็นโรคที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของธาตุลมภายในร่างกายได้ไม่สะดวก การรักษาจะต้องจ่ายยาสมุนไพรที่มีรสสุขุมร้อนอย่าง ยาหอมอินทจักร์ มาช่วยกระจายลมให้เคลื่อนไหวได้สะดวก

 

ยาหอมอินทจักร์

 

 

ร่วมกับการนวดหรือทำท่าบริหารร่างกาย วันนี้หมอจึงมาแนะนำ 7 ท่าบริหารร่างกายที่ใช้รักษาโรคหูอื้อ หูดับ ให้ท่านผู้อ่านได้ลองนำไปปฏิบัติกันนะคะ

 

ก่อนทำท่าบริหารควรเตรียมตัวให้พร้อมด้วยการตัดเล็บให้สั้น ถอดแหวน แว่นตา นาฬิกา ต่างหู และล้างมือและทำความสะอาดใบหน้า ในท่าบริหารแต่ละท่าแนะนำให้ทำจนครบ 7 ท่า นับเป็น 1 รอบ ให้ทำ 3-5 รอบ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นประจำ

 

ท่าที่ 1 ท่าเสยผม

ท่าบริหารของกล้ามเนื้อใบหน้าบริเวณศีรษะและใบหน้า ช่วยกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาทสมองเรื่องการได้ยิน

1. ใช้ปลายนิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง วางเหนือคิ้วทั้ง 2 ข้างพร้อมๆกัน

2. ค่อยๆออกแรงกดพร้อมกับเลื่อนนิ้วทั้ง 3 ขึ้นไปบนศีรษะต่อเนื่องไปจนถึงท้ายทอย

3. ทำซ้ำ 10 ครั้ง

 

 

ท่าที่ 2 ท่าทาแป้ง

ท่าบริหารของกล้ามเนื้อใบหน้าบริเวณหน้าผาก ช่วยกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาทสมองเรื่องการได้ยิน

1. ใช้นิ้วกลางทั้ง 2 ข้าง วางบริเวณด้านข้างของดั้งจมูกพร้อมกัน

2. ค่อยๆออกแรงกดนิ้วกลาง พร้อมกับเลื่อนนิ้วไปจนถึงหน้าผาก โดยให้ปลายนิ้วกลางจรดกันที่ปลายหน้าผาก

3. จากนั้นลูบมือทั้ง 2 ข้าง ไปทางหางคิ้วผ่านแก้มต่อเนื่องไปจนถึงคาง

4. ทำซ้ำ 10 ครั้ง

 

ท่าที่ 3 ท่าเช็ดปาก

ท่าบริหารของกล้ามเนื้อใบหน้าบริเวณแก้มและปาก ช่วยกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาทสมองเรื่องการได้ยิน

1. ใช้ฝ่ามือขวาวางทาบบนแก้มซ้าย ให้ปลายนิ้วก้อยอยู่ที่ปลายติ่งหูซ้าย

2. ลากมือมายังด้านขวาพร้อมกับเม้มริมฝีปาก โดยให้ฝ่ามือกดแนบสนิทขณะทำ

3. ทำสลับอีกข้างในลักษณะเดียวกัน

4. ทำซ้ำ 10 ครั้ง

 

ท่าที่ 4 ท่าเช็ดคาง

ท่าบริหารของกล้ามเนื้อใบหน้าบริเวณคางและกรอบหน้า ช่วยกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาทสมองเรื่องการได้ยิน

1. ใช้หลังมือข้างขวาวางทาบใต้คางซ้าย ให้ปลายนิ้วก้อยอยู่ที่ปลายติ่งหูซ้าย

2. ลากมือตั้งแต่ติ่งหูซ้ายไปตามคางจนถึงใต้หูขวา โดยให้ฝ่ามือกดแนบสนิทขณะทำ

3. ทำสลับอีกข้างในลักษณะเดียวกัน

4. ทำซ้ำ 10 ครั้ง

 

ท่าที่ 5 ท่ากดใต้คาง

ท่าบริหารของกล้ามเนื้อใบหน้าบริเวณคาง ช่วยกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาทสมองเรื่องการได้ยิน

1. ใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือทั้ง 2 ข้าง กดตรงกลางให้ปลายนิ้วหัวแม่มือตั้งฉากกับคางก้มหน้าเล็กน้อย เพื่อต้านนิ้วมือใช้แรงกดพอสมควร ค้างไว้นับ 1-10

2. จากนั้นเลื่อนจุดออกไปด้านข้างทั้ง 2 ข้าง ทีละ 1 นิ้วมือ จนสิ้นสุดบริเวณขอบล่างของกราม

3. ทำซ้ำ 5 ครั้ง

 

 

ท่าที่ 6 ท่าถูใบหู 

ท่าบริหารของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าและหู ช่วยกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาทสมองเรื่องการได้ยิน

1. ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลาง 2 ข้างคีบหูหลวมๆให้ฝ่ามือแนบกับแก้ม

2. ถูมือขึ้นลงแรงๆ นับเป็น 1 ครั้ง

3. ทำซ้ำ 10 ครั้ง

 

 

ท่าที่ 7 ท่าตบท้ายทอย

ท่าบริหารของกล้ามเนื้อบริเวณศีรษะและท้ายทอย ช่วยกระตุ้นการทำงานของเส้นประสาทสมองเรื่องการได้ยิน

1. ใช้ส้นมือทั้ง 2 ข้างปิดหูให้ปลายนิ้วทั้ง 2 ข้างวางอยู่บริเวณท้ายทอย ปลายนิ้วจรดกัน

2. กระดกนิ้วมือทั้ง 2 ข้างให้มากที่สุด แล้วตบที่ท้ายทอยพร้อมกันโดยไม่ยกฝ่ามือ

3. ทำซ้ำ 10 ครั้ง

 

 

 

นอกจากการทานยาอย่างถูกต้อง ทำท่าบริหารสม่ำเสมอ ควรดูแลสุขภาพเพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพในการรักษาร่วมด้วย

• ประคบร้อนด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นบริเวณบ่าคอ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ครั้งละ 10-15 นาที

• พักผ่อนให้เพียงพอ

• งดอาหารแสลง เช่น น้ำมะพร้าว ข้าวเหนียว หน่อไม้ เครื่องในสัตว์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

• ลดการทานอาหารรสเค็มจัด และเครื่องดื่มที่มีสารกระตุ้นประสาทอย่างคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม

• เลี่ยงการอยู่ในที่มีเสียงดังรบกวน

• งดการสูบบุหรี่ เพราะมีสารนิโคตินส่งผลต่อประสาทส่วนการได้ยิน ทำให้ฟื้นตัวช้า

• พยายามออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดความเครียด วิตกกังวล

• ระวังไม่ให้น้ำเข้าหู

 

หากใครที่มีความกังวลเกี่ยวกับอาการหูอื้อ หูดับ อยากปรึกษาหรือสอบถามเพิ่มเติม ทางปุณรดายาไทยมีทีมแพทย์แผนไทยผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษา สามารถติดต่อหมอโดยตรงได้ที่ Line ID : @Poonrada ได้เลยนะคะ หมอยินดีให้คำปรึกษาค่ะ

 

ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

 

 

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027

 


ทีมแพทย์แผนไทยปุณรดา

สุรดา เลิศเกศราธรรม

ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร

"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"

พท.ป.จิราณี กิจศิริพิพัฒน์

แพทย์แผนไทยประยุกต์

"พื้นฐานของสุขภาพดีคือการใส่ใจดูแลธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย ให้สมดุลกันเสมอ"

พท.ปฐมาพรรณ บุญประเสริฐ

แพทย์แผนไทย

" การเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ด้วยวิถีธรรมชาติ เป็นเกราะป้องกันโรค ทางกายและใจ "


ปุณรดา ยาไทย
แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด

ท่านจะได้รับทราบโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครทาง LINE@ พร้อมบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์แบบส่วนตัวฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

ข้อความถึงร้าน


× คุณได้เพิ่มสนค้าลงตะกร้า ดูสินค้าในตะกร้า