เพชรสังฆาต สมุนไพรพื้นบ้านรักษาริดสีดวง

เป็นไม้เถาเลื้อย เถารูปสี่เหลี่ยมเป็นปล้องๆ ตรงข้อเล็กรัดตัวลง มีมือยึดงอกออกจากข้อ ใบเดี่ยวกลมหนาเล็กผิวเรียบ ดอกกลมเล็กสีแดงเขียวเป็นช่อเล็ก ออกตามข้อ ผลกลมเท่าเมล็ดพริกไทย สีแดงหรือดำ ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป

เถาของเพชรสังฆาต มีรสร้อนขมคัน สามารถคั้นเอาน้ำดื่มแก้โรคลักปิดลักเปิด แก้ประจำเดือนไม่ปกติ แก้กระดูกแตกหักซ้น ขับลมในลำไส้ แก้ริดสีดวงทวารหนัก ทั้งชนิดกลีบมะไฟและเดือยไก่

เพชรสังฆาต กับ วิธีกินแบบง่ายๆ

1.) ใช้เถาสด

นำเถาสดๆ ของต้นเพชรสังฆาตมาทาน 2-3 ข้อนิ้วมือ ต่อหนึ่งมื้อ

ข้อควรระวัง: หากเคี้ยวสดๆ จะมีอาการคันปากคันคอได้ เพราะในสมุนไพรนี้จะมียางชนิดหนึ่งชื่อ สารแคลเซียมออกซาเลต มีลักษณะเป็นผลึกรูปเข็ม ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกับที่พบในต้นบอน ต้นเผือก วิธีการกินจึงต้องสอดไส้ในกล้วยสุก หรือมะขาม แล้วกลืนลงไป หากกินต่อเนื่อง 10-15 วัน จะเห็นผลดีขึ้นตามลำดับ

2.) ใช้เถาตากแห้ง

นำเถาแห้งของต้นเพชรสังฆาต มาบดเป็นผง ใส่แคปซูล ขนาดเบอร์ 2 (ผงยา 250 มิลลิกรัม) กินครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน กิน 5-7 วัน อาการจะดีขึ้นเรื่อยๆ ให้กินต่อเนื่องจนกว่าจะหาย

ข้อควรระวัง: เพชรสังฆาตมีสารแคลเซียมออกซาเลตสูง ซึ่งเป็นสารที่มีผลทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ดังนั้นไม่ควรสัมผัสหรือกินเพชรสังฆาตโดยตรง หากทานในรูปแบบแคปซูลจะทำให้ฤทธิ์ระคายเคืองถูกทำลายได้ โดยผ่านกรดในกระเพาะอาหาร ส่วนการทำเป็นยาลูกกลอน จะต้องใช้น้ำมะขามเปียกแทนน้ำผึ้ง เพื่อช่วยฆ่าฤทธิ์ดังกล่าว

สูตรลับโบราณ ตำรับยาแก้ริดสีดวงทวาร

1.) ตำรับยาผสมเพชรสังฆาตสูตร 1

ประกอบด้วย เพชรสังฆาต รากอัคคีทวาร โกฐน้ำเต้า ซึ่งมีสรรพคุณทำให้หัวริดสีดวงฝ่อ และช่วยระบาย

2.) ตำรับยาผสมเพชรสังฆาตสูตร 2

ระกอบด้วย เถาเพชรสังฆาต กะเม็ง โกศน้ำเต้า หัวกระชาย ซึ่งมีสรรพคุณ แก้ริดสีดวง แก้อาการถ่ายเป็นเลือด และช่วยระบาย(2)

ข้อควรระวัง: ควรระวังการใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร

อาการไม่พึงประสงค์: ท้องเสีย

Tips

“การรักษาโรคทุกโรคให้หายขาด 100% ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ตัวยาที่ทานเข้าไปเพื่อรักษาโรคนั้นๆ ช่วยได้เพียง 50% ส่วนอีกครึ่งหนึ่งคนไข้ต้องช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ และดูแลสุขภาพตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ โดยเฉพาะการงดอาหารแสลง ข้อนี้สำคัญมากค่ะ”

อ้างอิง