5วิธี บอกลาปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส แก้ได้ด้วยตัวเอง!

วิธีดูแลสุขภาพตามหลักแพทย์แผนไทย

5วิธี บอกลาปัญหาผิวหมองคล้ำ ไม่สดใส แก้ได้ด้วยตัวเอง!

รังสี UV และ แสงสีฟ้า เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้ง่าย ถึงจะ Work From Home ไม่ได้ออกไปไหน แต่การอยู่หน้าจอคอมตลอดทั้งวัน หรือแค่เปิดหน้าต่างให้แสงแดดเข้ามา UV ก็มาถึงเราได้แม้จะอยู่ในบ้านก็ตาม

 

ฉะนั้นครีมกันแดด เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ไม่ว่าจะผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก หรือ ผู้ใหญ่ ควรจะใช้ครีมกันแดดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันภาวะผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส และเพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังในอนาคต 

 

นอกจากครีมกันแดดแล้ว อาหารและพฤติกรรมก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะปัจจัยที่ทำให้ผิวหมองคล้ำไม่ได้มีแค่แสง หากเรามีความเครียด พักผ่อนน้อย นอนไม่พอ หรือทานอาหารที่มีอนุมูลอิสระเยอะเกินไป ก็ทำให้เซลล์ในร่างกายอ่อนล้า แสดงออกถึงภาวะอ่อนเพลีย หน้าหมอง ได้เหมือนกันค่ะ วันนี้หมอมี 5 วิธีการดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันปัญหาผิวหมองคล้ำมาฝากทุกคน มาทำร่วมกันเพื่อผิวที่ดีของเรากันนะคะ



1. การเลือกทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดภาวะการอักเสบในร่างกาย


อนุมูลอิสระ คือ โมเลกุลอิสระที่ไม่เสถียรเนื่องจากขาดอิเล็กตรอน ถ้าอนุมูลอิสระนี้ไปจับกับเซลล์ในร่างกาย จะทำให้เซลล์ในร่างกายทำงานได้ไม่เป็นปกติ นำไปสู่การตายของเซลล์ได้ อนุมูลอิสระเป็นต้นตอของปัญหาสุขภาพหลายอย่าง เช่น  ผิวหนังหมองคล้ำ เหี่ยวย่นก่อนวัย มะเร็ง ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ เป็นต้น ดังนั้นการทานอาหารที่ไม่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ และมีสารต้านอนุมูลอิสระ เลยเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผิวของเรามากค่ะ ตัวอย่างอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระได้แก่

• ผัก ผลไม้สีเหลือง และสีส้ม เช่น แครอท ฟักทอง มะละกอ มะม่วงสุก มีแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ วิตามินเอ และ เบตาแคโรทีน ช่วยในการรักษาสภาพเยื่อบุผิวหนังให้มีความชุ่มชื้น ลดความหยาบกร้าน แห้งแตก

• ผักใบเขียว เช่น ผักคะน้า ผักปวยเล้ง ถั่วลันเตา บร็อคโคลี่ มีส่วนประกอบของสารลูทีน นอกจากช่วยบำรุงในเรื่องของสายตาแล้ว ยังช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอย บำรุงสมองเพิ่มความจำ และป้องกันโรคหัวใจได้อีกด้วย

• ผัก ผลไม้สีแดง เช่น มะเขือเทศ แตงโม พริกหวาน เกรปฟรุต ฟักข้าว มีสารไลโคปีน ช่วยบำรุงผิวพรรณ ชะลอริ้วรอยก่อนวัย ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งในระบบต่าง ๆ 

• เนื้อแดง ทูน่า ไข่ ตับ และผักโขม มีสารซีลีเนียม ช่วยป้องกันและชะลอความเสื่อมของร่างกาย โดยซีลีเนียมมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการสร้างกลูตาไธโอนเพอรอกซิเดส ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลักที่พบได้ในทุกเซลล์

• ฝรั่ง ส้ม สตรอเบอร์รี่ มะขามป้อม มีส่วนประกอบของวิตามินซี เป็นตัวสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ไว้ด้วยกัน ทำให้ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง

• ถั่ว เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ขนมปังโฮลวีต จมูกข้าวสาลี ซีเรียลแบบโฮลเกรน อะโวคาโด รวมถึงผลไม้อื่นๆ และเนื้อสัตว์ เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลลอิสระ อย่างวิตามินอี ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวสำหรับผิวแห้งและผิวที่เสียหาย นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างการทำงานของเกราะป้องกันผิว ลดการระคายเคือง

• น้ำมันรำข้าว น้ำมันตับปลา เมล็ดเจีย วอลนัท แซลมอน เนื้อปลา ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 จะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับระบบคุ้มกันผิวหนัง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ อีลาสติน เพิ่มความชุ่มชื่นและอิ่มน้ำของผิว

 

2. นอนเป็นเวลา ช่วยลดความล้าของผิว 


ช่วงเวลาในการนอนที่ดีที่สุดควรเข้านอนก่อน 4 ทุ่ม เนื่องจากในเวลานั้นร่างกายของเราจะเริ่มทำงานลดลง เป็นสัญญาณของการพักผ่อน  เมื่อร่างกายได้พักผ่อน ก็จะเริ่มกระบวนการซ่อมแซมตัวเอง หากเรานอนดึก หรือนอนหลับได้ไม่สนิทในคืนนั้น การซ่อมแซมตัวเองก็จะทำได้ไม่ดี เป็นสาเหตุของผิวที่ไม่แข็งแรง หมองคล้ำ ดูไม่สดใส อีกทั้งหากนอนดึกสะสมจะยิ่งทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลงด้วย 

 

3.ลดความเครียดกังวลด้วยการอยู่กับธรรมชาติ 


เนื่องจากความเครียดจะส่งผลต่อภูมิคุ้มกันโดยตรง ทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังเร่งให้เซลล์ต่าง ๆ เกิดภาวะที่อ่อนล้าเร็วขึ้น และทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเกิดความแปรปรวน นอกจากนี้ความเครียดอาจไปกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนคอร์ติซอล (ฮอร์โมนแห่งความเครียด) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นการตื่นตัว จนนอนไม่หลับได้ ถ้าเรานอนไม่พอก็ยิ่งทำให้เรามีความรู้สึกไม่สดชื่น เกิดริ้วรอยก่อนวัย หากมีความเครียดเรื้อรังสะสมจะนำไปสู่การเจ็บป่วยต่อไปได้ การผ่อนคลายด้วยการอยู่กับธรรมชาติ งดใช้โซเชียล พักจากงานหรือความคิดที่กังวล ลองเอาเท้าจุ่มน้ำทะเล หรือย่ำลงบนพื้นดินที่ชุ่มชื้นบ้าง ก็ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายมากขึ้น ได้รับประจุลบ*เข้าสู่ร่างกาย การได้สัมผัสกับพลังของธรรมชาติที่จะช่วยเติมพลังงานที่ดี เตรียมพร้อมในการทำงานต่อไป

Tips : *สารทุกชนิดมีความสามารถในการกักเก็บ หรือปล่อยอิเล็กตรอน หากนำสารสองชนิดมาถูกัน อิเล็กตรอนจะส่งผ่านจากจากวัตถุหนึ่งไปยังอีกวัตถุหนึ่ง ผิวหนังของมนุษย์ดึงดูดอิเล็กตรอนได้ต่ำมาก เราสัมผัสทุกอย่างกับผิวหนังเรา จะเป็นสาเหตุทำให้สูญเสียอิเล็กตรอนออกจากร่างกาย เป็นผลทำให้ร่างกายเรามีประจุบวกเพิ่มมากขึ้น คนที่มีประจุบวกเยอะ จะมีอาการอ่อนล้า ภูมิแพ้ ปวดหัวง่าย บางคนอาจจะแสดงออกมาในรูปแบบของไฟฟ้าสถิตตามผิว เวลาออกจากรถ หรือ เดินในห้าง วิธีรับประจุลบที่ง่ายที่สุดคือการทานผักผลไม้สด และ การสัมผัสกับพื้นโลกด้วยเท้าเปล่า

 

4.หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่


สาเหตุสำคัญของการเกิดริ้วรอยก่อนวัย การดื่มแอลกอฮอล์ ในปริมาณที่มากจนเกินไป* จะก่อให้เกิดอนุมูลอิสระขึ้นในร่างกาย โดยแอลกอฮอล์จะดึงเอาวิตามินเอออกไปจากเซลล์ ซึ่งวิตามินเอจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะมีส่วนช่วยในการบำรุงสุขภาพผิวและลดอาการอักเสบของผิว อีกทั้งแอลกอฮอล์ยังทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ตับทำงานหนักในการขับแอลกอฮอล์ออก อาจจะทำให้เกิดสารพิษตกค้างในตับ เป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายไม่สดชื่น ผิวหมองคล้ำ เหี่ยวย่น ผิวแห้งกร้าน เป็นสิวได้ง่าย เช่นเดียวกันกับในควันบุหรี่ ควันบุหรี่ประกอบไปด้วยสารพิษและอนุมูลอิสระจำนวนมาก เมื่อถูกสูดเข้าร่างกายจะก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพมากมายรวมถึงผิวแก่ก่อนวัยอีกด้วย

 

Tips : *การดื่มแอลกอฮอล์ ในปริมาณที่มากจนเกินไป คือเกินกว่าวันละ 150 ซีซี หากดื่มไวน์แดงจะดีต่อร่างกายที่สุด ส่วนแอลกอฮอล์อื่น ๆ ส่งผลเสียมากกว่าผลดี

 

5.เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยให้ร่างกายต้านอนุมูลอิสระจากภายใน


นอกจากการทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว ตัวช่วยที่จะ boost ระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงโดยตรงคือ สมุนไพรพลูคาว พลูคาวมีการนำมามาใช้รักษาผู้ป่วยตั้งแต่สมัยอายุรเวทโบราณ มีสรรพคุณหลักในการเสริมภูมิคุ้มกัน ดูแลระบบน้ำเหลือง และจากการศึกษาพบว่ามีสารเทอร์พีนอยด์ (Terpenoid) ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) และอัลคาไลน์ (Alkaline) มีสรรพคุณช่วยในการซ่อมแซมระบบภายในร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดน้ำตาลในเลือด และช่วยให้ระบบน้ำเหลืองทำงานได้อย่างปกติ ในการจะเลือกทานพลูคาวกระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ว่า ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของพลูคาวต้องใช้กระบวนการสกัดด้วยการบดผงหรือสกัดด้วยน้ำจากใบพลูคาวเท่านั้น ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานดังกล่าวและได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง

ซึ่งปุณรดายาไทยผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรมานานกว่า 10 ปี ร่วมกับ คลินิกแพทย์แผนไทยหมอนภา ที่ทำการรักษาด้วยสูตรยาสมุนไพรตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ได้คิดค้นอาหารเสริม ‘ปัง (Pung)’ ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยมีส่วนประกอบหลักอย่างสมุนไพรพลูคาว(ผงบด) เน้นในเรื่องการเสริมภูมิคุ้มกัน อีกทั้งในผลิตภัณฑ์ยังมีส่วนผสมของสมุนไพรอีกหลายชนิดได้แก่

 

• เก๋ากี้ หรือที่หลายคนเรียกว่า โกจิเบอร์รี่ เป็นทั้งผลไม้และสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุมากมาย จากผลการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Alternative and Complementary Medicine เมื่อปี ค.ศ.2008 พบว่าอาสาสมัครที่ดื่มน้ำโกจิเบอร์รี่เป็นประจำนาน 15 วัน มีแนวโน้มสุขภาพแข็งแรงขึ้น รู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีพลังงานมากกว่าที่ผ่านมา นอนหลับได้ดีขึ้น

• ตังกุย เป็นสมุนไพรจีนที่ช่วยปรับหยิน-หยางในร่างกาย จึงนิยมใช้ตังกุยในการแก้ปัญหาด้านการเจริญพันธุ์ในสตรี รวมทั้งกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน บำรุงเลือด บรรเทาอาการร้อนวูบและอาการวัยทอง 

• กีวี่สีทอง เป็น Super fruit ที่มีวิตามินซีสูง เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิว อีกทั้งยังมีสารเซโรโทนิน ที่ช่วยให้ผ่อนคลาย ทำให้หลับได้สนิท มีสารโพแทสเซียมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และเสริมสร้างสมาธิให้กับสมองได้อีกด้วย

• และสมุนไพรอีกหลายชนิดเช่น ขมิ้นชัน เกรฟฟรุต โต๋วต๋ง ไป๋จู๋ ชะเอมจีน หวงฉี เป็นต้น

 

อาหารเสริมปังทานได้ง่าย เพียงรับประทานวันละ 1 แคปซูลก่อนอาหารเช้า หรือก่อนนอน ก็จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ทำให้ร่างกายสดชื่น ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น ลดความหมองคล้ำลง เสริมสร้างสิ่งดี ๆ จากภายในร่างกายสู่ภายนอก 

 

เป็นอย่างไรบ้างคะทุกคน 5 วิธีง่าย ๆ ในการดูแลตัวเองเพื่อบอกลาปัญหาผิวหมองคล้ำ สามารถทำได้ง่าย ๆ เลยใช่ไหมคะ หากเราทุกคนทำได้ครบทั้ง 5 ข้อ บวกกับการทาครีมกันแดดเป็นประจำ ก็ไม่ต้องกลัวเลยค่ะว่าผิวจะโทรม ไม่สดใส เพราะร่างกายเราแข็งแรง พร้อมต้านอนุมูลอิสระจากทุกปัจจัย ทำให้ผิวไม่เหี่ยวย่น พร้อมสู้แสงแดด ออกไปทำงาน ไปเที่ยวด้วยความสดใส นอกจากวิธีที่บอกไปข้างต้นแล้ว สิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรลืมเลยคือการออกกำลังกายและการขับถ่ายนะคะ หลังจากที่เราบำรุงตัวเองทั้งการรับประทานสิ่งดี ๆ และ เลี่ยงสิ่งที่ไม่ดีแล้ว การขับออกของของเสียก็เป็นสิ่งสำคัญ การออกกำลังกายจะช่วยขับเหงื่อ ทำให้ร่างกายขับไขมัน น้ำมันส่วนเกิน ของเสียตามผิวหนังออก และการขับถ่ายก็จะช่วยขับของเสียภายในจากกากอาหารออกจากร่างกาย หากเราไม่ขับออกเลย หรือขับออกได้ไม่ดี ของเสียเหล่านั้นก็จะสะสมทำให้ผิวพรรณไม่สดใสด้วยเช่นกันค่ะ 

 

หากใครได้ลองทำตามกันแล้ว มาแชร์ผลลัพธ์กันได้ที่หน้าเพจ FB: Poonrada Yathai หรือ หากใครอยากได้คำแนะนำเพิ่มเติมในการดูแลผิว ปุณรดายาไทยก็มีสกินแคร์จากธรรมชาติ เหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่ายกันด้วยนะคะ สนใจเพิ่มเติมสามารถติดต่อหมอโดยตรงได้ที่ Line ID : @Poonrada ได้เลยค่ะ ยินดีดูแลให้คำปรึกษาทุกท่าน เพื่อให้เราคงผิวสวยไว้ได้ยาวนาน เสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับร่างกายตั้งแต่ภายในสู่ภายนอกนะคะ 


 

ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

 

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: TEL: 02-1147027


ทีมแพทย์แผนไทยปุณรดา

สุรดา เลิศเกศราธรรม

ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร

"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"

พท.ป.จิราณี กิจศิริพิพัฒน์

แพทย์แผนไทยประยุกต์

"พื้นฐานของสุขภาพดีคือการใส่ใจดูแลธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย ให้สมดุลกันเสมอ"

พท.ปฐมาพรรณ บุญประเสริฐ

แพทย์แผนไทย

" การเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ด้วยวิถีธรรมชาติ เป็นเกราะป้องกันโรค ทางกายและใจ "


ปุณรดา ยาไทย
แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด

ท่านจะได้รับทราบโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครทาง LINE@ พร้อมบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์แบบส่วนตัวฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

ข้อความถึงร้าน


× คุณได้เพิ่มสนค้าลงตะกร้า ดูสินค้าในตะกร้า