อาหารแสลงคืออะไร? ทำไมห้ามทาน!?

วิธีดูแลสุขภาพตามหลักแพทย์แผนไทย

อาหารแสลงคืออะไร? ทำไมห้ามทาน!?

ในช่วงที่ผ่านมานี้ มีคนไข้หลายๆท่านมาสอบถามหมอเกี่ยวกับอาหารแสลงกันค่อนข้างมาก ถือเป็นคำถามที่พบได้บ่อยเลยก็ว่าได้ค่ะ ส่วนใหญ่​มักสอบถามเข้ามา ว่าเป็นโรคนั้นโรคนี้ ห้ามทานอะไรหรือเปล่า ต้องควบคุม​อาหารแสลงหรือเปล่า อาหารแสลงคืออะไร ทำไมห้ามทาน ถ้าทานจะมีผลอย่างไร? วันนี้หมอจะมาไขข้อสงสัย​เกี่ยวกับอาหารแสลงให้ทุกๆท่านทราบกันนะคะ

 

อาหารแสลงคืออะไร


อาหารแสลง คือ อาหารที่ควรงดทานในช่วงที่มีอาการเจ็บป่วย  เนื่องจากของแสลงนั้นจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับร่างกาย กระตุ้น​อาการอักเสบและส่งผลให้อาการป่วยหายช้า  จึงทำให้อาหารเหล่านั้นกลายเป็นของแสลงค่ะ

 

​วันนี้หมอได้จัดลำดับอาหารแสลง แบ่งตามความแสลงมาก-น้อย เป็น 3 สี ได้แก่ สีแดง สีส้ม และสีเหลือง ดังนี้นะคะ

 

อาหารแสลงสีแดง (แสลงมาก)​


1.ของหมักดอง เช่น ปลาร้า ปลาเค็ม​ ผัก-ผลไม้​ดอง ปูดอง เป็นต้น

เนื่องจาก​กระบวนการ​ทำ มาจากการหมักที่ใช้เกลือ มีน้ำตาลปริมาณ​มาก โดยเฉพาะ​น้ำตาลสูง จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกาย หากทานบ่อยก็จะทำให้การอักเสบเรื้อรัง 

 

2.หน่อไม้ (ทั้งดิบและสุก)

เนื่องจากหน่อไม้มีสารพิวรีนสูง เป็นสารต้นแบบในการผลิตกรดยูริก ซึ่งถ้ามีมากไป ก็จะสะสมตามข้อต่างๆ ของร่างกาย ส่งผลให้มีอาการปวด อักเสบได้

 

3.อาหาร​รสจัด​ทุกชนิด เช่น เผ็ด เปรี้ยว​ เค็ม หวาน เป็นต้น

รสเผ็ด : เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคทางกระเพาะอาหาร 

รสเปรี้ยว : อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ง่าย ทำให้ระบบน้ำเหลืองมีปัญหาก็มักจะทำให้แผลหายช้า

รสเค็ม : โซเดียมจะไปเพิ่มเซลล์กล้ามเนื้อของหัวใจและหลอดเลือด ทำให้เกิดความดันโลหิตที่สูงขึ้นและหัวใจทำงานหนักมากขึ้น รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อมได้

รสหวาน : ทำให้ระดับของวิตามินบี 1 ในร่างกายลดน้อยลง อาจเกิดอาการภูมิแพ้ ขี้หงุดหงิดหรือซึมเศร้าได้ง่าย นอนไม่หลับ ทำให้เลือดเหนียวข้นขึ้น 

4.อาหารทะเล(ยกเว้นปลามีเกล็ด)​ เช่น กุ้ง หอย หมึก แมงดา​ ปลาไหล เป็นต้น

เนื่องจากอยู่ในกลุ่มอาหารที่เสี่ยงต่อการแพ้ อาจแพ้แบบไม่แสดงอาการเป็นภูมิแพ้แฝง อีกทั้งมีคอเลสเตอรอลสูง รับประทานแล้วกระตุ้นการอักเสบ บวมแดง

 

5.เนื้อสัตว์​บางชนิด เช่น เนื้อวัว เนื้อเป็ด เนื้อควาย เนื้องู เนื้อกบ เนื้อนก เนื้อจระเข้ เป็นต้น

เนื่องจากเนื้อส่วนใหญ่​จะคาว มีกลิ่นเฉพาะ เนื้อหยาบ เมื่อทานเข้าไปทำให้กระเพาะอาหาร ลำไส้  ตับ  ต้องทำงานอย่างหนักในการย่อย เมื่ออวัยวะภายในทำงานหนัก ก็จะส่งผลให้ร่างกายมีความร้อนสูงขึ้น กระตุ้นการอักเสบในร่างกาย 

 

​6.แอลกอฮอล์​ เช่น สุรา เบียร์​ ไวน์​ เป็นต้น

เนื่องจากมีฤทธิ์​ร้อน ทำให้ร่างกายมีความร้อนสะสมมากขึ้น จนกระตุ้นการอักเสบต่างๆในร่างกาย ทำให้ภูมิ​คุ้มกัน​ในร่างกายต่ำลงค่ะ

 

7.ผลไม้​ฤทธิ์​ร้อน เช่น ทุเรียน​ ขนุน ลำไย มะปราง เป็นต้น

เนื่องจากผลไม้เหล่านี้ให้พลังงานสูง มีน้ำตาลสูง จึงกระตุ้นความร้อนและการอักเสบในร่างกายได้

 

อาหารแสลงสีส้ม (แสลงปานกลาง ขึ้นอยู่กับ​บุคคล)


1.อาหาร​แปรรูป​ เช่น ไส้กรอก แหนม อาหารกระป๋อง​ เนยเทียม เบค่อน เป็นต้น

เนื่องจากเป็นอาหารที่ผ่านกระบวนการมาค่อนข้างมาก มีการใช้โซเดี่ยมสูง และ มีสารกันเสีย ซึ่งสามารถกระตุ้นการบวมและอักเสบได้

 

2.อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น ซาชิมิ ซูชิ ลาบ-ก้อย เป็นต้น

เนื่องจากกระบวนการทำอาจมีการปนเปื้อน ทำให้ท้องเสียได้​ และ ทำให้ระบบย่อยทำงานหนัก พออาหารย่อยยากก็จะดูดซึมไปใช้ได้ไม่ดี  อาจทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด 

 

3.ของทอด ของมัน เช่น หมู-ไก่ทอด ปลาทอด แกงกะทิ เป็นต้น

เนื่องจากของทอดหากไม่ได้ทำอาหารเองหรือซื้อมาจากร้านค้าภายนอก โดยส่วนใหญ่จะมีการใช้น้ำมันในการทอดหลายครั้งซ้ำๆกัน ซึ่งน้ำมันไม่ควรใช้ซ้ำเกิน 2 ครั้ง เพราะจะมีสารอนุมูลอิสระและสารก่อมะเร็งออกมา เมื่อร่างกายได้รับเข้าไปจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้น้อยลง 

 

4.ขนมหวาน ของหวาน เช่น ขนมไทย เบเกอรี่ น้ำหวาน เครื่องดื่มชูกำลัง เป็นต้น

เนื่องจากมีน้ำตาลปริมาณ​มาก จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกาย หากทานบ่อยก็จะทำให้การอักเสบเรื้อรัง อาการป่วยจะหายช้า

 

5.เครื่อง​ในสัตว์​ เช่น ตับ ไต หัวใจ เลือด เป็นต้น​

เนื่องจากเครื่องใน​สัตว์​ มีคลอเรสเตอรอลสูงไม่ว่าจะมาจากสัตว์ชนิดใดก็ตาม สามารถทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน และโรคหัวใจได้ มีผลทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบเรื้อรังได้เช่นกันค่ะ

 

อาหารแสลงสีเหลือง (แสลงน้อย ขึ้นอยู่กับ​บุคคล)


1.ผลิต​ภัณฑ์​จากนมสัตว์​ เช่น นมวัว นมเปรี้ยว​ โยเกิร์ต​ เป็นต้น

เนื่องจากในนมมีน้ำตาล แลคโตส แต่ในร่างกายของเราสามารถผลิตเอนไซม์ที่มีชื่อว่า แลคเตส ที่ใช้ย่อยนมวัวเองได้ในปริมาณที่จำกัด หรือ ในบางคนผลิตไม่ได้เลย ส่งผลให้นมไม่สามารถย่อยได้ อาจตกค้างในร่างกายและทำให้ไปขวางการดูดซึมของลำไส้ ก่อให้เกิดแก๊สในกระเพาะมีผลก่อการอักเสบที่ลำไส้และทวารได้

 

2.เครื่อง​ปรุง​รสต่างๆ เช่น น้ำปลา ซอสต่างๆ ผงปรุงรส​ ผงชูรส​ เป็นต้น

เนื่องจากเครื่องปรุงรส ผงปรุงรสสำเร็จรูปรวมถึงผงชูรส ล้วนมีเกลือและโซเดียมเป็นส่วนผสม ซึ่งอาจมีปริมาณมากกว่าที่ร่างกายต้องการต่อวัน โดยจะมีผลกระทบต่อระบบหลอดเลือดต่างๆ ก่อการอักเสบ 

 

3.เห็ดทุกชนิด

เนื่องจากเห็ดกระตุ้นระบบน้ำเหลือง ทำให้ระบบน้ำเหบืองทำงานหนัก ผู้ที่มีปัญหาระบบน้ำเหลือง น้ำเหลืองเสีย ผื่นคัน ลมพิษ ฝี ควรหลีกเลี่ยงก่อนค่ะ

 

ในส่วนของอาหารแสลง 3 สี ดังกล่าวนี้ อาจมีเนื้อหาที่ค่อนข้างมากและละเอียด​ แต่หมออยากสื่อสารให้ทุกๆท่านเข้าใจไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อจะได้นำไปปรับใช้ในชีวิตประจําวัน​กันนะคะ

 

ในการรักษา​โรคต่างๆให้หายขาด จำเป็นต้องใช้ยา ร่วมกับการปรับพฤติกรรม​และการควบคุม​อาหารแสลงร​่​ว​มด้วย​ เพราะตัวยาจะช่วยรักษาได้40% ส่วนอีก60​% เป็นเรื่องของอาหารและพฤติกรรม​ค่ะ​ หากใช้ยาอย่างเดียวจะทำให้อาการดีขึ้น​ แต่ใช้ระยะเวลา​นานในการรักษา​ และมีโอกาส​ที่โรคจะกำเริบจากอาหารและพฤติกรรม​ได้ค่ะ

 

สุดท้ายนี้ หมออยากเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านนะคะ เพราะการดูแลรักษา​สุขภาพ​ต้องเข้าใจร่างกายควบคู่กับต้องตั้งใจทำ ตั้งใจปรับเปลี่ยนถึงจะได้ผลอย่างยั่งยืน การดูแลสุขภาพมีรายละเอียด​ค่อนข้างมาก หมอแนะน​ำให้ค่อยๆปรับ ค่อยๆลด หากจำเป็น​ต้องทาน ให้เลือกทานของที่แสลงน้อยไปมาก หรือ หากทานของที่แสลงมาก ก็ให้ทานในปริมาณ​ที่น้อยๆ นานๆครั้ง และหมั่น​สังเกต​อาหารที่ทาน ว่าทานแล้วมีอาการเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นหรือไม่ เพราะอาหารบางอย่าง ไม่ได้แสลงกับทุกคนเสมอไปค่ะ

 

ขอให้ทุกๆท่าน รักษา​สุขภาพ​กันด้วยนะคะ หากมี​ข้อสงสัย​ หรือ ต้องการ​ปรึก​ษาเพิ่มเติม สามารถ​แจ้งได้เล​ยนะคะ​ ปุณร​ดา​ยาไทยยินดีให้คำปรึกษา​ค่ะ

 

 

อย่าลืมนะคะ สมุนไพรเป็นยาที่มีประโยชน์มากค่ะหากใช้ให้ถูกวิธี ปุณรดายาไทยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

 

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027


ทีมแพทย์แผนไทยปุณรดา

สุรดา เลิศเกศราธรรม

ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร

"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"

พท.ป.จิราณี กิจศิริพิพัฒน์

แพทย์แผนไทยประยุกต์

"พื้นฐานของสุขภาพดีคือการใส่ใจดูแลธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย ให้สมดุลกันเสมอ"

พท.ปฐมาพรรณ บุญประเสริฐ

แพทย์แผนไทย

" การเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ด้วยวิถีธรรมชาติ เป็นเกราะป้องกันโรค ทางกายและใจ "


ปุณรดา ยาไทย
แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด

ท่านจะได้รับทราบโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครทาง LINE@ พร้อมบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์แบบส่วนตัวฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

ข้อความถึงร้าน


× คุณได้เพิ่มสนค้าลงตะกร้า ดูสินค้าในตะกร้า